“บิ๊กเจี๊ยบ” ยัน ทบ.ไม่อุ้มทหารผิดวินัย ลั่นไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือ ฟันไม่เลี้ยง เผยปี 60 ปลดแล้ว 134 นาย นายทหาร 8-นายสิบ 126 นาย แจงพลทหารขอนแก่นถูกลวงทำร้ายเป็นเรื่องส่วนบุคคล พร้อมเดินหน้าเรื่องร้องเรียนกำลังพลทุจริต ส่ง ศอตช.เร่งดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายนายกฯ
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่พลทหาร บัญชา กิจมานะ พลทหารประจำกองร้อยอาวุธเบาที่ 3 ค่าย ร.8 พัน.3 เข้าร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาประจำ ร.8 พัน.3 ค่ายสีหราชเดชโชชัย จ.ขอนแก่น ว่าถูกทหารยศนายสิบและจ่าสังกัดเดียวกันหลอกให้ไปทำความสะอาดบ้านพัก แต่เมื่อไปถึงกลับถูกชายอีกคนซึ่งเป็นพลเรือนเข้ามาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บว่า อยู่ในขั้นตอนของคดีความที่ต้องดำเนินการไปตามกรอบของคดีในเรื่องการทำร้ายร่างกาย หากมีใครเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดต้องได้รับการลงโทษ อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เหตุนี้เกิดจากตัวบุคคลสองคน ขัดแย้งเรื่องส่วนตัวทำร้ายกัน จากที่จ่าซึ่งควบคุมพาไปทำงานเท่านั้นเอง ไม่ใช่กรณีของการไปซ่อม ทำโทษกันตามที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งนี้ กรณีพลทหาร ยุทธกินันท์ บุญเนียม ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ มทบ.45 จ.สุราษฎร์ธานีนั้นก็ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้ว ส่วนกรณีพลทหาร นพดล วรกิจพันธ์ สังกัด มทบ.45 เสียชีวิตนั้นยังไม่มีความชัดเจน แต่ภาวะโดยรวมผลชันสูตรยังไม่ออกมา ยืนยันว่ายังไม่ใช่การซ้อมทรมาน
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวอีกว่า ยอมรับว่ามีกำลังพลทำผิดวินัยหลายครั้ง และมีจำนวนมาก ทั้งที่เป็นความผิดส่วนบุคคล และความผิดที่มีผลกระทบมากับหน่วย ส่วนบุคคลก็ว่าไปตามคดีความด้านกระบวนการยุติธรรม ในขณะเดียวกัน เมื่อกลับมาก็ต้องลงโทษทางวินัยซ้ำอีก ต่างจากคนข้างนอกที่คดีความจบเรื่องก็จบ ส่วนที่กระทบต่อหน่วยก็เช่นเดียวกัน ตรงไหนที่ผิดกฎหมายก็ว่าไปตามกฎหมาย และลงโทษทางวินัย หากเป็นเรื่องภายในก็ลงโทษภายในกันเอง เรื่องใดที่มีผู้เสียหายหน่วยก็ต้องไปเยียวยาให้ความช่วยเหลือ
“ทุกครั้งที่ประชุม ผมจะย้ำเรื่องนี้เสมอ และมีการลงโทษตามกระบวนการขั้นตอนของทางราชการ ปีนี้ก็งดบำเหน็จไปจำนวนมากทั้งนายทหาร นายสิบ และมีการปลดออก มีการสรุปตัวเลขว่ามีนายทหาร 8 นาย นายสิบ 126 นาย เพราะฉะนั้นผมไม่ได้เลี้ยงใครไว้ ถ้าผิดก็ผิด ไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องไปช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำความผิด เพราะเวลานี้เมื่อเปิดสอบสมัครต้องการ 20 คน แต่มีผู้มาสมัครถึง 5 พันคน ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องไปเลี้ยง หรือช่วยเหลือกัน ยืนยันตามกรอบ ผมก็พยายามเต็มที่ แต่คนหมู่มากก็อาจจะมีบ้าง” พล.อ.เฉลิมกล่าว
พล.อ.เฉลิมชัยยังกล่าวถึงกรณีที่วันที่ 6 ก.ย.นี้จะเป็นครบวันต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันว่า ในภาพรวม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งปราบทุจริตในหน่วยงานภาครัฐอยู่แล้ว ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มอบหมายมา ทุกหน่วยก็มีเร่งรัดในเรื่องนี้พร้อมกับการดำเนินการหากมีการชี้เบาะแสมา ทางหน่วยก็ต้องไปดำเนินการแก้ไข ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ก็เข้าสู่ขั้นตอนของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ซึ่งกระบวนการที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนมาพอสมควร ตนได้คุยกับเลขาธิการ ศอตช.ไปเมื่อวานนี้ เขาก็เร่งรัดในการดำเนินการเพื่อให้ผลการร้องเรียนเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรื่องนี้เป็นงานนโยบายที่นายกรัฐมนตรีสั่งการมา