xs
xsm
sm
md
lg

“วิษณุ” ตีมึน ปัดชง สนช.ออก กม.นิรโทษฯ สนามกอล์ฟอัลไพน์ ชี้แค่ขั้นตอนหารือ โยนอยู่ที่ มส.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ ปัดข่าวชง สนช.ออกกฎหมายโอนธรณีสงฆ์ให้มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย นิรโทษกรรมสนามกอล์ฟอัลไพน์ อ้างยังอยู่ในขั้น มท.-พศ.หารือ พร้อมระบุสุดท้ายขึ้นอยู่กับมหาเถรสมาคมจะตัดสินใจ

วันนี้ (4 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวกระทรวงมหาดไทยและสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์วัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ซึ่งจะเป็นการนิรโทษกรรมให้แก่หมู่บ้านจัดสรรและสนามกอล์ฟอัลไพน์ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบว่า ไม่เป็นความจริง ยังไม่ใช่กำลังจะออกกฎหมาย และยังไม่เคยเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเข้า สนช.ได้อย่างไร รวมถึงยังไม่เคยไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกา แต่การดำเนินการก็ต้องออกเป็นกฎหมายใหม่ เนื่องจากตอนนี้ยังถือเป็นที่ของเอกชน ซึ่งเวลานี้เขากำลังคิดกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถเยียวยาผู้ที่เดือดร้อนประมาณ 600 ครัวเรือนได้ ที่ส่วนหนึ่งเป็นผู้สุจริต ทำอย่างไรให้ได้รับประโยชน์ คิดกันมาหลายรัฐบาลแล้วว่าจะต้องออกด้วยวิธีนั้น แต่เรื่องยังไม่ได้พ้นจากกระทรวงมหาดไทย เป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทย และ พศ.กำลังหารือกันอยู่

เมื่อถามว่ามีการเสนออยากให้ออกกฎหมายเป็นการเช่าซื้อ นายวิษณุตอบว่า ไม่ทราบ เพราะเรื่องยังไม่ได้พ้นมาจากกระทรวงมหาดไทย ตนไม่รู้จะตอบอย่างไรในเรื่องนี้ เมื่อถามต่อว่า สุดท้ายแล้วคนที่จะตัดสินใจคือมหาเถรสมาคม (มส.) ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า หลายฝ่าย คนที่ดูแลเรื่องนี้ตามกฎหมาย คือ มส. และเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องคือกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะกรมที่ดิน และ พศ.ในฐานะเป็นกลไกที่จะประสานกับ มส. เมื่อถามต่อว่า แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้ง ผอ.พศ.คนใหม่ จะส่งผลกระทบต่อเรื่องนี้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ได้ลำบากหรือเดือดร้อนอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ควรมีการตรวจสอบเป็นรายกรณีหรือไม่ว่ารายใดได้ที่ดินมาโดยสุจริตและไม่สุจริต นายวิษณุกล่าวว่า ได้ยินว่าเขากำลังดูกันอยู่ว่าจะตรวจสอบอย่างไร อาจให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เข้ามาช่วยดูด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์ การรับฟังความคิดเห็นกฎหมายไทย ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงดีอี (กระทรวงไอซีทีเดิม) และสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการเผยแพร่ “ร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์วัดธรรมิการามวรวิหาร ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา พ.ศ. …” เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็น ช่วงวันที่ 7-23 ส.ค.ที่ผ่านมา

โดยมีสรุปสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้เสนอร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์วัดธรรมิการามวรวิหาร ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา พ.ศ. ... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และได้จัดทำบันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้

๑. เหตุผลและความจำเป็นในการเสนอร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์วัดธรรมิการามวรวิหาร ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่มูลนิธิมหามกุฏ ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา พ.ศ. ....

ด้วยนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ ๒๐ ตำบลคลองซอยที่ ๕ฝั่งตะวันออก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่ ๗๓๐ ไร่ ๑ งาน ๕๑ ตารางวา และโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๔๔๖ ตำบลบึงอ้ายเสียบ (คลองซอยที่ ๕ ฝั่งตะวันตก) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานีเนื้อที่ ๑๙๔ ไร่ ๑ งาน ๒๔ ตารางวา ให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้อาศัยอำนาจตามมาตรา ๘๔ และมาตรา ๘๕ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่อนุญาตให้วัดธรรมิการามวรวิหารถือครองที่ดินเกินกว่า ๕๐ ไร่ และต้องจำหน่ายจ่ายโอนเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ประกอบกับคณะกรรมการกฤษฎีกา (ที่ประชุมใหญ่) มีความเห็นตามเรื่องเสร็จที่ ๗๓/๒๕๔๔ ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นมรดกเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมมิการามวรวิหารแล้วตั้งแต่เจ้ามรดกถึงแก่กรรม ซึ่งการจำหน่ายจ่ายโอนจะกระทำได้โดยการตราเป็นพระราชบัญญัติ ตามความในมาตรา ๓๓ (๒) และมาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ และวัดธรรมิการามวรวิหารได้แสดงความประสงค์ไม่ต้องการโอน ทางทะเบียนที่ดินมาเป็นชื่อวัดผู้ถือกรรมสิทธิ์ แต่ต้องการจำหน่ายเพื่อนำเงินมาบำรุงวัดและเก็บดอกผล แต่เนื่องจากมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ได้จัดการมรดกโดยรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าวมาเป็นของมูลนิธิและได้จำหน่ายต่อไป โดยไม่ได้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ดังนั้น เพื่อให้การโอนที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งเป็นการคุ้มครองสิทธิและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนซึ่งครอบครองที่ดินอยู่ในขณะนี้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

๒. สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้

ร่างพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์วัดธรรมิการามวรวิหาร ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา พ.ศ. ... มีสาระสำคัญคือ ให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ วัดธรรมิการามวรวิหาร ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โฉนดที่ดินเลขที่ ๒๐ ตำบลคลองซอยที่ ๕ ฝั่งตะวันออก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่ ๗๓๐ ไร่ ๑ งาน ๕๑ ตารางวา และโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๔๔๖ ตำบลบึงอ้ายเสียบ (คลองซอยที่ ๕ ฝั่งตะวันตก) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่ ๑๙๔ ไร่ ๑ งาน ๒๔ ตารางวา ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชบัญญัตินี้ให้แก่มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ตามคำสั่งศาลแพ่งคดีหมายเลขแดงที่ ๑๓๓๔๓/๒๕๓๓ ลงวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๓ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ ทั้งนี้ ให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากร
กำลังโหลดความคิดเห็น