รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยันปรองดองเป็นบ่อเกิดแห่งความมั่นคง ต้องทำทุกส่วนเข้าใจ ชี้ “ยิ่งลักษณ์” หนีศาลต้องรอดูผลกระทบเป็นอย่างไร เชื่อไม่มีเหตุรุนแรง
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่เทศบาลนครเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 ในฐานะคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการจัดทำร่างสัญญาประชาคม ว่า หลังจากที่นำร่างสัญญาประชาคมเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านก็ได้มีความคิดเห็นเพิ่มเติม เมื่อได้ร่างประชาคมฉบับสมบูรณ์แล้วจะนำไปทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนทั่วไป อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญ คือ ทำให้เกิดความปรองดอง เพราะปรองดองเป็นบ่อเกิดของความมั่นคงเศรษฐกิจ และสังคม ขณะเดียวกัน ถ้าปรองดองไม่ได้แม้จะมีการเลือกตั้ง ความขัดแย้งก็จะกลับเข้ามาใหม่ ดังนั้น ต้องทำให้ทุกภาคส่วนเข้าใจกันให้ได้ ไม่ว่าจะพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ภาคธรุกิจ ภาคประชาชน
เมื่อถามว่า กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะกระทบกับการปรองดองหรือสัญญาประชาคมหรือไม่ นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของคดีและเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล หลังจากนี้ ต้องรอดูผลกระทบว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจนเพราะเวลาเพิ่งผ่านไปเพียงวันเดียว ยังไม่รู้ว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร
“หลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหว ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีคนรักคนชอบจำนวนมาก แต่ทุกอย่างก็ต้องเดินไปตามกฎหมาย และเชื่อว่าสถานการณ์จะปกติไม่มีเหตุรุนแรง นอกจากนี้ ยังเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะต้องดูแลรักษาความสงบของประเทศ ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ ของรัฐก็ต้องดูแลเรื่องความยุติธรรมด้วย” นายพีระศักดิ์ กล่าว