รองนายกรัฐมนตรี ไม่ชัวร์ศาลฎีกาพิจารณาคดี “ยิ่งลักษณ์” ลับหลังได้หรือไม่ ต้องดูข้อกฎหมายให้ชัด แต่ถึงรู้ก็ไม่ตอบ โยนถามคนอื่น ยันหนีไปไม่ส่งผลต่อรัฐบาล ไม่พูดจ่อใช้ตำรวจสากล เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะชัดเจนขึ้น รับกฎหมายใหม่ยังไม่มีผลบังคับใช้
วันนี้ (26 ส.ค.) ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลในคดีรับจำนำข้าวและหนีคดีไปว่า ตนไม่ทราบ และไม่ทราบว่าหลังจากวันที่ 27 ก.ย.ที่ศาลนัดมาฟังคำพิพากษาอีกครั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมาหรือไม่ แล้วถ้าไม่มา ศาลจะสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้หรือไม่ เนื่องจากตนยังไม่ได้ดูกฎหมาย จึงไม่กล้าตอบและไม่แน่ใจ
“ตอนนี้ถือเป็นช่วงรอยต่อระหว่างกฎหมายเก่าและกฎหมายใหม่ การจะพิจารณาคดีลับหลังได้หรือไม่ ต้องไปดูข้อกฎหมายให้ชัดเจน” นายวิษณุกล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีไปจะส่งผลอะไรต่อรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี ไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่ได้เป็นโจทก์ และส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรด้วย เมื่อถามว่า ถ้ากฎหมายใหม่บังคับใช้จะสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ขอตอบ เพราะควรจะเป็นคนอื่นที่จะตอบ และถึงแม้ตนรู้ก็จะไม่ตอบด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประเมินมาก่อนหน้านี้หรือไม่ว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีหรือไม่หนีจะมีผลอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ตอบ รัฐบาลไม่ควรตอบเรื่องนี้เพราะถ้าตอบไปรัฐบาลก็จะขาดทุน
เมื่อถามว่า การติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายใด นายวิษณุกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องดำเนินการตามหมายจับ เมื่อถามย้ำว่า รวมถึงการประสานกับต่างประเทศด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวย้อนถามว่า “นี่เขาหนีไปต่างประเทศแล้วหรือ ไม่รู้ ไม่ทราบ ผมไม่รู้เลย”
เมื่อถามว่า หากหนีไปต่างประเทศจริง เราต้องประสานกับทางองค์กรตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โพล) หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ขอตอบ เพราะถ้าตอบไปจะถือเป็นการแสดงอะไรบางอย่าง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทุกอย่างต้องรอความชัดเจนในวันที่ 27 ก.ย.นี้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “อาจไม่ต้องถึงขนาดนั้น เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะชัดเจนขึ้นมาเอง ให้มันชัดเจนขึ้นมาอีกสักนิดก่อน เพราะตอนนี้อะไรก็ยังไม่ชัดเจน คุณอย่านึกว่าตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้วนะ หนีหรือไม่ มีใบรับรองแพทย์หรือไม่ การพิจารณาคดีต้องดูหลายอย่างประกอบกัน ตอบไปตอนนี้ก็จะกลายเป็นผิด”
เมื่อถามว่าจะให้ชัดเจนต้องรอนานแค่ไหน นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะความชัดเจนไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล แต่ขึ้นอยู่กับหลายฝ่าย ตนตอบไม่ถูก แต่ถ้าทุกอย่างมีความชัดเจนในแง่ข้อเท็จจริงก็จะสามารถเดินไปได้ และวันนี้สังคมสนใจข้อเท็จจริงมากกว่าข้อกฎหมาย แล้วเอาข้อเท็จจริงนั้นหมุนมาหาข้อกฎหมาย ถ้าข้อเท็จจริงไม่นิ่งแล้วไปตอบข้อกฎหมายคนก็อาจจะสับสนได้ จึงไม่อยากตอบอะไรเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นการชี้นำ
“ผมบอกแล้วว่าต้องดูว่าป่วยจริงหรือไม่ มีใบรับรองแพทย์หรือไม่ อยู่บ้านจริงหรือไม่ ไปต่างประเทศหรือไม่ ไปเมื่อไหร่ ไปอย่างไร หรือไปบอกศาลได้อย่างไรว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน สิ่งเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงทั้งนั้น จากนั้นค่อยมาดูว่าผิดจริงหรือไม่ กฎหมายว่าอย่างไร เข้ามาตราไหน ดังนั้นจึงต้องรอข้อเท็จจริงให้นิ่งก่อนถึงจะมาบอกชี้ชัดอะไรได้” นายวิษณุกล่าว
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีคดีจะมีอายุความหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ขณะนี้กฎหมายใหม่ยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่ถ้าตามกฎหมายเก่ามีอายุความ แต่ตนจำไม่ได้ว่ากี่ปี เมื่อถามว่า หากกฎหมายใหม่ออกมาจะมีปัญหาหรือไม่เพราะเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันพอดี นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีปัญหา ไม่คาบเกี่ยว เพราะเมื่อถึงเวลามันก็จะชัดเจนเอง
นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีศาลพิพากษาคดีของบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่า หากทนายไม่ยื่นขอประกันก็ต้องจำคุก แต่ไม่รู้ว่าทนายยื่นขอประกันหรือยัง และศาลให้ประกันหรือไม่ เพราะตนไม่ได้ติดตามข่าวจึงยังไม่รู้รายละเอียด