เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยเลยขั้นตอนที่จะเสนอความเห็น หลังศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยกฎหมายลูก ชี้ถ้าถูกตีตกก็เฉพาะมาตราที่ขัด ระบุร่างฯ คุ้มครองผู้ตรวจฯ ไม่ได้มีอภิสิทธิชน บอกอำนาจแต่ละองค์กรต่างกัน ถ้าไม่ขัด รธน.ก็สรรหาเพิ่มให้ครบ
วันนี้ (24 ส.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน มาตรา 56 ที่บัญญัติให้คุ้มครองผู้ตรวจการแผ่นดินชุดปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งต่อจนครบวาระ ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 273 ว่าเรื่องนี้เลยขั้นตอนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะเสนอความเห็นแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นพ้องกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสียงข้างมากที่ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายนี้
ส่วนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหากเห็นว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ จะทำให้ร่างกฎหมายตกไปหรือไม่นั้น นายรักษเกชากล่าวว่า ต้องดูที่คำวินิจฉัยว่าจะกำหนดอย่างไร แต่โดยปกติแล้วถ้าเป็นกฎหมายจะตกเฉพาะมาตราที่ขัดรัฐธรรมนูญเท่านั้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่ร่างกฎหมายดังกล่าวคุ้มครองผู้ตรวจการแผ่นดินให้อยู่ในตำแหน่งต่อ ไม่ได้ถือว่ามีอภิสิทธิ์เหนือองค์กรอิสระอื่น เพราะการพิจารณากฎหมายต้องดูเรื่องอำนาจหน้าที่ของแต่ละองค์กร ซึ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้แตกต่างกัน จึงขึ้นอยู่กับผู้ร่างว่าต้องการออกแบบประเทศไทยให้เป็นแบบไหน
นายรักษเกชากล่าวว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ขั้นตอนต่อไปในการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินเพิ่มให้ครบ 3 คน กรรมการสรรหาจะต้องวินิจฉัยก่อนว่าผู้ตรวจการแผ่นดิน 2 คน ที่อยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน คือ พล.อ.วิทวัส รัชตะนันทน์ และนายบูลย์ ฐาปนดุลย์ จะเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินในสัดส่วนของภาคราชการหรือภาคผู้ทำประโยชน์สาธารณะ เพื่อที่จะได้มีการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินอีกหนึ่งคนตามสัดส่วนที่ยังขาดอยู่