อธิการบดีแม่โดม เห็นด้วยใช้ ม.44 แก้ปัญหาเปิดทางคนนอกเข้ามานั่งผู้บริหารอุดมศึกษา ชี้คนนอก-คนใน สำคัญอยู่ที่ทำงานให้มหาวิทยาลัยได้หรือไม่ ยกเมืองนอกใช้คนนอกนั่งอธิการบดี ตัดปัญหามองแคบ
วันนี้ (9 ส.ค.) นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารงานของสถาบันอุดมศึกษาที่เปิดทางให้คนนอกมหาวิทยาลัยมาทำหน้าที่อธิการบดีและผู้บริหารว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าว เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาของบางมหาวิทยาลัยที่มีอาจารย์จำนวนน้อยที่อยู่ภายใต้ข้อบังคับที่ไปกำหนดจะต้องเลือกอธิการบดีจากคนในเท่านั้นซึ่งทำให้เกิดปัญหา
“มหาวิทยาลัยบางแห่งมีปัญหาว่าคนในมีจำนวนจำกัด เช่น กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ หรือราชมงคล มีอาจารย์ประมาณ 200-300 คน ต่างจากธรรมศาสตร์ จุฬาฯ มหิดล ที่มีประมาณ 2,000 คน ดังนั้น ธรรมศาสตร์ หรือจุฬาฯ จึงไม่เคยเลือกคนนอก เลือกคนในมาตลอด” นายสมคิดกล่าว
นายสมคิดกล่าวว่า ปัญหาเรื่องคนนอกหรือคนในไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ส่วนตัวเห็นด้วยกับมาตรา 44 เพราะปัญหาที่สำคัญ คือ ไม่ว่าจะเป็นคนนอกหรือคนในเขาสามารถทำงานให้มหาวิทยาลัยได้ดีหรือไม่ ถ้าคนในไม่ดีพอ หรือมีคนไม่พอก็ต้องไปเลือกคนนอกก็เป็นเรื่องปกติ
“เวลาพูดว่าคนนอก ผมอยากพูดให้ชัดเจนว่าคนนอกของมหาวิทยาลัยทั้งหลายไม่มีใครเป็นคนนอกแท้ๆ ส่วนใหญ่จะมาจากอาจารย์พิเศษที่สอนในมหาวิทยาลัยนั้น หรือเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยและมาเป็นอธิการบดี ไม่มีคนนอกแท้ที่โดดมา เพราะคนนอกที่โดดมาไม่มีทางบริหารมหาวิทยาลัยนั้นไม่ได้” นายสมคิดกล่าว
นายสมคิดกล่าวอีกว่า ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ส่วนใหญ่จะห้ามไม่ให้เอาคนในมหาวิทยาลัยมาเป็นอธิการบดี โดยจะต้องเอาคนนอกต่างมหาวิทยาลัยเท่านั้นถึงจะมาเป็นอธิการบดีได้ เนื่องจากกลัวว่าคนในจะมองแคบ