โฆษก กมธ.ปฏิรูปตำรวจ เผยอนุกรรมการฯ เสนอระบบสอบสวนอยู่กับ สตช.เหมือนเดิม แต่เป็นอิสระจากผู้บังคับบัญชา เตรียมเข้าที่ประชุมใหญ่อีกครั้ง 16 ส.ค.นี้
วันนี้ (7 ส.ค.) นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ โฆษกคณะกรรมาธิการปฏิรูปประเทศด้านกรระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอของคณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา ที่มี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธาน โดยคณะอนุกรรมการฯได้เสนอเกี่ยวกับการสืบสวนและสอบสวนให้อยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต่อไป โดยให้เหตุผลว่าการสอบสวนคือการพยายามหาคนกระทำผิด และส่งฟ้องศาล อำนาจนี้ที่ประชุมมีความเห็นว่าควรเป็นอำนาจที่มีอิสระ ทำหน้าที่คลายศาลและอัยการ ควรมีอิสระจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งอนุกรรมการฯ ก็เสนอว่าคนที่ทำหน้าที่ควรจะมีอิสระในการสั่งฟ้องไม่ฟ้องกับอัยการและศาลต่อไป และมีระบบความก้าวหน้าของคนทำงานโดยตรงตามสายงาน ซึ่งจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาทำงานตรงนี้ และกำหนดเวลาในการสอบสวนเพื่อให้คดีไม่หมดอายุความ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวยังไม่ใช่มติที่ประชุมใหญ่
“ต้องการให้การทำงานฝ่ายสอบสวนมีความอิสระจากผู้บังคับบัญชาของตัวเอง เมื่อเขาบอกคนนี้ผิด คนนี้ถูก โดยไม่ต้องมีคนมาสั่งการจากผิดเป็นถูก โดยเป็นการกำหนดหลักการเหมือนผู้พิพากษาที่มีอิสระ อยู่ภายใต้อำนาจของประธานศาลฎีกา แต่ประธานศาลฎีกาจะไปบอกว่าคนนั้นผิด คนนี้ถูกไม่ได้ เรื่องนี้เราจะพยายามวางระบบในชั้นสอบสวนให้ได้ เพราะถ้านำระบบสอบสวนไปอยู่กับอัยการ หรือกระบวนการยุติธรรมก็มีปัญหาทั้งนั้น เราจึงต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้” นายสมคิดกล่าว
นายสมคิดกล่าวว่า ส่วนข้อกังวลว่าจะไม่มีความเป็นอิสระ เพราะการสอบสวนตำรวจอาจพัวพันยุ่งเกี่ยวกับการสืบสวนข้อเท็จจริงได้นั้น ตนเห็นว่าการไปจับผู้ร้าย ถ้าแยกการสืบสวนสอบสวนออกจากกัน การประสานจัดการจะทำได้ยาก จึงเสนอให้อยู่ที่เดียวกัน จึงมีความเป็นห่วงว่าจะทำให้มีอิสระได้จริงหรือไม่ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ก็ต้องวางรายละเอียดให้ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 ส.ค.เวลา 09.00 น. อนุกรรมการฯ ทุกชุดจะนำข้อสรุปเสนอต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อให้ได้ข้อยุติ