นายกรัฐมนตรี ชมเจ้าหน้าที่แก้น้ำท่วมสกลนครน่าพอใจ เผยได้ผลกระทบหนักสุดในรอบ 40 ปี สั่งกระทรวงเกษตรฯ เร่งผันน้ำลงโขง 100 กม.ให้ได้ใน 7 วัน เตรียมพื้นฟูเยียวยาเต็มที่ ย้ำเตือนภัยแล้ว อย่ามัวคิดความขัดแย้ง หยอดคนอีสานจิตใจดี ซื่อ ขอใครมาช่วยเหลืออย่างจริงใจก็รักทุกคน
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่ค่ายกฤษณ์สีวะรา จ.สกลนคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ว่า ขอชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างน่าพอใจ จังหวัดสกลนคร ถือว่าได้รับผลกระทบหนักสุดในรอบ 40 ปี ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย เร่งผันน้ำลงในแม่น้ำโขง ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร ให้ได้ใน 7 วัน หลังจากนั้นจะเตรียมการฟื้นฟูและเข้าสู่การเยียวยาอย่างเต็มที่ โดยใช้หลักเกณฑ์ราชการเดิม ทั้งบ้านเรือน ประชาชน การเกษตร ภาคธุรกิจ โดยรัฐบาลจะจัดงานระดมเงินบริจาคที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำมาช่วยเหลือประชาชน อีกทางหนึ่ง จึงอยากฝากให้ผู้ที่บริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่ต้องเป็นกองทุนรับบริจาคที่มาลงทะเบียนไว้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลมีโครงการที่จะแก้ไขปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน ผ่านแผนปฏิรูปการบริหารจัดการน้ำที่จะมีโครงการขนาดใหญ่ แต่ทั้งหมดจะสำเร็จได้ต้องสร้างความเข้าใจและร่วมมือจากประชาชน และย้ำว่ามาตรการช่วยเหลือรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม และย้ำว่าการเตือนภัยได้ทำอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับจังหวัด ท้องถิ่น และชุมชน มีการประกาศเตือนภัยล่วงหน้าแล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวช่วงหนึ่งว่า ในฐานะคนไทยด้วยกันต้องร่วมมือแก้ไขปัญหาของประเทศ อย่ามัวไปคิดถึงความขัดแย้งกันมากนัก ขอให้ทำเพื่ออนาคต แก้ปัญหาให้ได้ อย่าให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก และขอร้องว่าอย่ามาถามเรื่องความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกับตน เพราะที่ผ่านมาแล้วให้ผ่านไป วันข้างหน้าจะต้องหยุด อย่าให้ตนเองต้องพูดอีกเลย ขอให้เอาปัญหาที่ผ่านมาเป็นบทเรียน สิ่งไหนดีก็ให้เก็บมาใช้ แต่ถ้ามีปัญหาก็อย่านำมาใช้อีก และสิ่งที่รัฐบาลทำงานมา ก็ทำเพื่อคนทั้งประเทศ เป็นคนไทยด้วยกันก็ต้องช่วยเหลือกัน ลืมและลดความขัดแย้งให้เร็วที่สุด อย่าไปปลุกให้เกิดขึ้นมาอีก
“คนอีสานเป็นคนจิตใจดีและซื่อ รักทุกคนที่มาช่วยเขา จึงขอร้องว่าอย่าเอาวัฒนธรรมของคนอีสานมาเป็นเครื่องมือมาใช้ ใครที่มาช่วยเหลืออย่างจริงใจก็รักทุกคน อยู่ที่ว่าคนที่มาช่วยเหลือนั้น จริงใจกับเขาจริงหรือเปล่า และแม้ผมจะเกิดที่โคราช แต่ก็รักคนอีสานและคนไทยทั้งประเทศ”
จากนั้น นายกรัฐมนตรีขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อตรวจดูสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ จ.สกลนคร และนครพนม ก่อนลงที่จุดโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และตรวจเยี่ยมพื้นที่ประตูระบายน้ำที่จังหวัดนครพนม