ผู้ประกอบการธุรกิจย่านประตูน้ำ จี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก.แรงงาน แก้กฎหมายช่วย หลังพบ พ.ร.ก.ต่างด้าวโทษรุนแรง แถมบังคับให้ทำงานได้แค่กรรมกรกับคนรับใช้ ทำ จนท.สบช่องหาประโยชน์รับสินบน ต้องส่งส่วยให้หลายปี โวยการค้าฝืดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซ้ำเจอ กม.ใหม่เปรียบเสมือนโดนประหาร
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.30 น. กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ SME ในศูนย์การค้าย่านประตูน้ำ ได้ยื่นหนังสือผ่านนายอมร วาณิชวิวัฒน์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เพื่อเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, ประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรมและการแรงงาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แก้ไขกฎหมายและปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพความเป็น จริงและสถานการณ์ในปัจจุบันและหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจ เนื่องพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา และ สนช.เห็นชอบให้ออกเป็นพระราชบัญญัติแล้วนั้น ซึ่งมาตรา 101, 102, 119 และ 122 มีบทกำหนดอัตราโทษปรับที่รุนแรงมาก และบางฐานความผิดมีโทษจำคุกด้วย
โดยที่สภาพการณ์ความเป็นจริงในปัจจุบัน ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ภายในศูนย์การค้าย่านประตูน้ำ มีความต้องการและจำเป็นต้องใช้แรงงานในตำแหน่งพนักงานขายของหน้าร้านเป็นอย่างยิ่ง มีการประกาศรับสมัครคนไทยแล้วก็ตาม ก็ไม่มีคนไทยมาสมัครงานแต่อย่างใด ทำให้ขาดแคลนแรงงานในตำแหน่งดังกล่าว ผู้ประกอบการธุรกิจ SME จึงมีความจำเป็นต้องจ้างคน-ต่างด้าวมาทำงานในหน้าที่ดังกล่าวเพื่อทดแทนแรงงานที่ขาดแคลนอย่างหนัก แต่เนื่องจากกฎหมายผ่อนผันให้คนต่างด้าวใน 3 สัญชาติ (พม่า ลาว และกัมพูชา) ทำงานได้ 2 ประเภทงาน คือ งานกรรมกรและผู้รับใช้ในบ้านเท่านั้น ผู้ประกอบการธุรกิจ SME จึงจำเป็นต้องใช้คนต่างด้าวทำงานดังกล่าวซึ่งเป็นการใช้แรงงานผิดประเภทเรื่อยมา
ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเป็นช่องทางของเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายหน่วยงาน อาศัยการทำผิดกฎหมายดังกล่าวมาเรียกรับสินบนกับผู้ประกอบการนายจ้าง และลูกจ้างต่างด้าวเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี มีการเรียกร้องให้ส่งส่วยค่าคุ้มครองเป็นรายเดือนตลอดมาต่อเนื่องหลายปี จนถึงปัจจุบันเป็นปัญหาที่ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ประสบมาอย่างยาวนาน ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด แม้ว่าผู้ประกอบการธุรกิจ SME จะได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย เกี่ยวกับการจ้างคนงานต่างด้าว 3 สัญชาติอย่างเคร่งครัด และให้ความร่วมมือสนองนโยบายของรัฐในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ด้วยดีเสมอมา ซึ่งจากบทบัญญัติของกฎหมายใหม่ที่มีอัตราโทษที่รุนแรงขึ้น อาจหนุนนำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปราบปรามคนต่างด้าวอย่างจริงจังและเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเรียกรับผลประโยชน์ที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ไม่อาจรับมือกับสภาพการณ์ในปัจจุบันได้ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้การค้าขายฝืดเคืองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและผลกระทบกับการบังคับใช้กฎหมายที่มีอัตราโทษที่รุนแรงมากซึ่งในความเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEเปรียบเสมือนโทษประหารชีวิต ที่ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ที่ประกอบอาชีพโดยสุจริตอาจได้รับ จึงอยากให้พิจารณาและดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการธุรกิจ SME ภายในศูนย์การค้าย่านประตูน้ำอย่างเร่งด่วน
