“ประยุทธ์” ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม กำชับทุกจังหวัดพื้นที่เสี่ยงภัยทำงานเชิงรุกต่อเนื่อง เน้นเข้าถึงและช่วยเหลือผู้ประสบภัยระดับครัวเรือน พร้อมทบทวนปรับปรุงการเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพ แนะประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือ ให้ฟังจากราชการ
วันนี้ (29 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุเซินกาอย่างใกล้ชิด แม้ว่าขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยาจะแจ้งว่าปริมาณฝนจะลดลงเพราะพายุได้อ่อนกำลังลงและสลายตัวแล้ววานนี้ แต่ขอให้ทุกจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงยังคงเฝ้าระวัง แจ้งเตือน และออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด เนื่องจากบางพื้นที่เกิดปัญหาไฟฟ้าดับ และน้ำเข้าท่วมในจุดสำคัญ เช่น โรงพยาบาล สนามบิน เป็นต้น
“บางพื้นที่ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายประชาชนออกมาได้ เพราะเกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน เจ้าหน้าที่จะต้องทำงานเชิงรุกโดยใช้เรือท้องแบนลำเลียงอาหารและสิ่งจำเป็นที่ง่ายต่อการขนส่งและ บริโภค เป็นการชั่วคราว เช่น ข้าวเหนียว ไก่ทอด ไข่ต้ม น้ำดื่ม เข้าไปมอบให้กับผู้ประสบภัยถึงครัวเรือนระหว่างรอการอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ ขอให้แต่ละจังหวัดทบทวนปรับปรุงระบบการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อติดตามข้อมูลต่างๆ ให้เกิดความแม่นยำ และนำข้อมูลสภาพภูมิประเทศและภูมิสังคมของพื้นที่จริงไปประเมินจุดเสี่ยง และแจ้งเตือนประชาชนผ่านช่องทางการสื่อสารหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะผู้นำชุมชนที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน”
นายกรัฐมนตรียังได้เตือนไปยังพี่น้องประชาชน ขอให้ใช้วิจารณญานในการรับและส่งต่อข่าวสารในโลกออนไลน์ โดยให้ติดตามข่าวสารที่ถูกต้องจากทางราชการ เนื่องจากที่ผ่านมามีข่าวลือ เช่น อ่างเก็บน้ำใน จ.สกลนครแตก หรือจะมีพายุเนสาทที่รุนแรงกว่าเซินกาถึง 2 เท่า เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ทั้ง 2 เรื่องไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่ากรณีของอ่างเก็บน้ำเป็นเพียงน้ำที่เอ่อล้นท่วมพื้นที่ท้ายอ่างบางส่วน และเจ้าหน้าที่ได้จัดการแก้ไขปัญหาแล้ว ส่วนพายุเนสาทนั้นจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไต้หวันในวันที่ 29-30 ก.ค.นี้ โดยไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย