โฆษกรัฐบาล เผย ครม. ถกปมแรงงานต่างด้าว เล็งตั้งศูนย์วันสตอปเซอร์วิส อำนวยความสะดวกแรงงาน พม่า - กัมพูชา แต่อยู่ยาวไม่ได้ แค่ให้ยืดเวลาถึง มี.ค.
วันนี้ (25 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องแรงงานต่างด้าว เนื่องจากสัปดาห์ก่อน ตามที่ได้มีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) จัดการแรงงานต่างด้าวปี 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้ แต่มีบางมาตราที่มีโทษรุนแรง นายจ้างถูกปรับสูง ลูกจ้างถูกจำคุก โดยทาง คสช. ได้ออกคำสั่งมาตรา 44 ชะลอการบังคับใช้กฎหมายออกไปถึงวันที่ 1 มกราคม 2561 เพื่อให้แรงงานได้กลับไปจัดการเรื่องเอกสารให้เรียบร้อย ซึ่งเฉลี่ยแล้วใช้เวลาจัดการ 2 เดือน ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงให้กระทรวงแรงงาน ดำเนินการให้นายจ้างและลูกจ้างเดินทางไปแจ้งข้อมูลระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ที่ศูนย์จัดหางานตามจังหวัดต่างๆ ว่า ทำงานในตำแหน่งใด มีที่พักอย่างไร ในส่วนของกรุงเทพฯ มีอยู่ 11 จุดให้แจ้ง คือ กระทรวงแรงงาน, ไอทีสแควร์ หลักสี่พลาซ่า, กรมยุทธศึกษาทหารบก, สวนกีฬารามอินทรา, ธัญญาพาร์ค, หอประชุมมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สุวรรณภูมิ, สถานีขนส่งสายใต้ ชั้น 2, กองความปลอดภัยด้านแรงงาน, อาคารสโมสรวังนันทอุทยาน, สำเพ็ง 2 พาร์ค เฟส 3 และ ที่ศูนย์กีฬาบางขุนเทียน เคหะชุมชุนธรบุรี 3 โดยสามารถแจ้งได้ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม - 7 สิงหาคม
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า หลังจากแจ้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว การขับเคลื่อนต่อไป คือ การตั้งศูนย์วันสตอปเซอร์วิส อย่างในกรณีแรงงานชาวกัมพูชา และ พม่า ที่ผิดกฎหมาย ที่เดิมต้องกลับไปบ้านเกิดเพื่อจัดการเอกสาร ทางเราได้เจรจากับทั้งสองประเทศ ซึ่งเขาสามารถส่งเจ้าหน้าที่ มาร่วมทำงานกับทางการไทยได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางกลับไปบ้านเกิด สามารถตรวจสัญชาติ ตรวจวีซ่า ตรวจสุขภาพแรงงานของเขาในไทยได้ ถือว่า นี่คือ มาตรการช่วยเหลือนายจ้างที่มีลูกจ้างทำงานเข้าขากัน และเกรงว่าถ้าให้กลับไปบ้านเกิดเพื่อจัดการเอกสาร แล้วอาจจะไม่ได้ร่วมงานกันอีก ทั้งนี้ ศูนย์วันสตอป เซอร์วิส ไม่สามารถอนุญาตแรงงานให้อยู่ยาวได้ ทำได้แค่ให้อยู่ถึง 31 มีนาคม 2561 เท่านั้น ถือว่า ยืดเวลาอยู่ในไทยได้เกือบ 1 ปี ถือเป็นมาตรการบรรเทาปัญหาขาดแรงงานในตลาดได้