นิมิตร์ เทียนอุดม
นโยบาย “มีลูกเพื่อชาติ” ของกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ผมคิดว่าคงไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร จริงๆ แล้วโดยส่วนตัวผมเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่จะส่งเสริมให้ประชากรของประเทศมีลูกให้มากขึ้น เพราะเรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เด็กเกิดน้อย อนาคตสังคมไทยจะประสบปัญหาการขาดแรงงาน และพบวิกฤตการดูแลผู้สูงอายุ
แต่นโยบายที่ดีต้องมาพร้อมกับแนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและการจัดสร้างระบบต่างๆ รองรับด้วย ถึงจะประสบความสำเร็จ เพราะเสียงสะท้อนของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมและจำนวนหนึ่งตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์นั้น มีสาเหตุมาจากการตั้งครรภ์นั้นเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ
ทั้งกฎหมายแรงงานก็มีมาตรการห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้าง ซึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์ทำงานในระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง เวลา 06.00 น. ทำงานล่วงเวลา ทำงานวันหยุด หรืองานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือเครื่องยนต์ที่มีความสั่นสะเทือน งานขับเคลื่อนที่ติดไปกับยานพาหนะ งานยกแบกหาม ทูน ลาก หรือเข็นของหนักเกินสิบห้ากิโลกรัม งานที่ทำในเรือ (มาตรา 39) เพื่อคุ้มครองสุขภาพของหญิงมีครรภ์ไม่ไห้ได้รับผลกระทบจากสภาพการทำงาน และให้สิทธิลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์มีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรครรภ์หนึ่งไม่เกิน เก้าสิบวัน (มาตรา 41)
นอกจากนี้ มาตรา 43 ยังระบุห้ามมิให้นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงเพราะเหตุมีครรภ์
แต่วิถีชีวิตคนทำงานจริงๆ ไม่ได้ตรงไปตรงมาตามตัวหนังสือที่กฎหมายบัญญัติหรอกครับ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม เคยเจอผู้รับบริการที่ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์เป็นอุปสรรคต่ออาชีพ 965 คำตอบจาก 4,724 คำตอบ (ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคำตอบเรื่องปัญหาทางเศรษฐกิจ 1,806 คำตอบ) เมื่อค้นต่อในรายละเอียด จะพบว่า ความเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพนั้น หมายรวมถึงการตั้งครรภ์จะไม่ผ่านการประเมินเพื่อบรรจุเป็นพนักงานประจำ
นอกจากนี้ การมีลูกโดยไม่มีสวัสดิการสังคมรองรับเป็นอุปสรรคที่ทำให้คนทำงานคิดหนัก เริ่มตั้งแต่ค่าเลี้ยงดู (นม อาหาร ผ้าอ้อม ฯลฯ) คนที่จะมาช่วยเลี้ยงลูกระหว่างที่ตัวเองไปทำงาน ซึ่งถ้าไม่ใช่เครือญาติก็แปลว่าต้องจ้างเลี้ยงซึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายตามมา หรือถ้าจะลาออกมาเลี้ยงลูกเองก็ต้องคำนวณรายได้ของความอยู่รอดในครอบครัว เมื่อลูกโตขึ้นก็ต้องมีค่าเล่าเรียน (แม้ว่าจะมีนโยบายเรียนฟรีแต่เราก็รู้กันอยู่ว่ามันไม่ฟรีจริง)
ในขณะที่ประเทศสวีเดน ผู้หญิงสามารถลาคลอดได้ยาวนานถึง 18 เดือน โดยยังได้รับรายได้เกือบเท่าเงินเดือนที่รับอยู่ก่อนคลอดเด็กนักเรียนสามารถเข้าโรงเรียนได้ฟรี อุปกรณ์การเรียนฟรี โดยรัฐจะส่งให้เรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงปริญญาเอกตามกำลังความสามารถของ และเด็กทุกคนมีเงินเดือนให้ใช้ โดยทุกคนได้รับเท่ากัน
จะให้ประชาชนช่วยรัฐ ยังไงก็ขอให้รัฐช่วยประชาชนด้วยครับ ไม่ต้องถึงขนาดประเทศที่พัฒนาแล้วก็ได้ แต่ก็ขอให้ประชาชนไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อยากมีลูกก็อยากมี ปากท้องก็ต้องหาเลี้ยงตัวเองแบบปากกัดตีนถีบ อย่างน้อยก็ลาคลอดได้มากกว่า 3 เดือน มีหน่วยงานประเภท Day care ฝากเลี้ยงบุตรช่วงเวลาที่ไปทำงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เด็กทุกคน ไม่เลือกฐานะแบบฐานคิดเรื่องสงเคราะห์
ถ้ารัฐช่วยประชาชน ประชาชนก็พร้อมจะช่วยรัฐนะครับ