กฤษฎีกา ชี้ “37 ปลัด อบต.มหาสารคาม” ที่ถูก ม.44 โยกไปช่วยราชการศาลากลาง ปี 2559 ไม่มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่ “ปลัด” ในกรรมการกลาง ยกตัวอย่างความเห็นเดิม ม.44 ระงับการทำงาน “นายกเทศมนตรี” เป็นไปตามเจตนารมณ์คำสั่งหัวหน้า คสช. ทำให้ไม่สามารถเข้ารับคัดเลือกเป็นผู้แทนปลัด อบต. และเป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนคัดเลือกผู้แทนปลัด อบต.ได้ เผย 37 ปลัด อบต.ถูกย้าย โยงกรณีทุจริตสอบแข่งขันบุคคล เพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบล 31 แห่งใน จ.มหาสารคาม
วันนี้ (12 ก.ค.) มีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายดิสทัต โสตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ลงนามในเรื่องเสร็จที่ 861/2560 บันทึกความเห็นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (ปลัด อบต.) ซึ่งไปช่วยราชการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 59/2559 ส่งถึงกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (กถ.) กระทรวงมหาดไทย
ทั้งนี้ ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล (ก.อบต.) ได้สอบถามความเห็นกรณีหัวหน้า คสช.มีคำสั่งที่ 59/2559 เรื่องประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 8 และการปรับปรุงการบริหารงานบุคคลในบางหน่วยงานของรัฐ ลงวันที่ 27 ก.ย.2559 หรือ ม.44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 ให้ข้าราชการหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็น ปลัด อบต.37 คนของ จ.มหาสารคาม ถูกคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ศาลากลาง จ.มหาสารคาม และอยู่ในกระบวนการสอบสวนนั้น
โดยพบว่าเป็นปลัด อบต.ในส่วนของ จ.มหาสารคาม จำนวน 3 ราย ที่หมดวาระเป็นกรรมการกลาง จ.มหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2559 ที่ตามคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม
“ทั้ง 3 รายจะสามารถปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้แทนพนักงานส่วนตำบลในคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล จ.มหาสารคาม ต่อไปได้หรือไม่ รวมถึงปลัด อบต.จำนวน 37 ราย ที่ถูก ม.44 ให้มาช่วยราชการจะสามารถถูกเสนอชื่อให้เข้ารับคัดเลือกเป็นผู้แทนปลัด อบต. และเป็นผู้มีสิทธิลงคะแนนคัดเลือกผู้แทนปลัด อบต. ในคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล จ.มหาสารคาม กรณีครบวาระการดำรงตำแหน่งได้หรือไม่”
มีรายงานว่า ก่อนสอบถามมายังคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.อบต.มีความเห็นใน 2 แนวทาง โดยแนวทางแรก 37 ปลัด อบต. แม้ยังไม่พ้นจากการดำรงตำแหน่งและยังมีสถานะเป็นปลัด อบต. จึงสามารถปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้แทนพนักงานส่วนตำบลในคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล จ.มหาสารคาม ต่อไปได้ในวาระที่เหลืออยู่ และเมื่อครบวาระปลัด อบต.ที่ถูกส่งไปช่วยราชการ ก็มีสิทธิถูกเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกและมีสิทธิลงคะแนนคัดเลือกผู้แทนปลัด อบต.ได้ แนวทางที่ 2 คำสั่งหัวหน้า คสช.มีวัตถุประสงค์ให้ 37 ปลัด อบต.หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจที่ปลัด อบต.มีอยู่
“คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1 เคยมีความเห็น เรื่องเสร็จที่ 1024-1025/2559 สรุปได้ว่า เมื่อการดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของ “นายเทศมนตรี”ที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.) ซึ่งถูก ม.44 ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 19/2558 เช่นกัน ให้นายกเทศมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ ในการเป็นตัวแทนเทศบาลในตำแหน่งใน ส.ท.ท. ดังนั้น การที่ปลัด อบต.ได้รับคัดเลือกถูกคำสั่งไปช่วยราชการจึงเป็นผู้ที่ต้องถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่กรรมการฯ นั้นด้วย”
อย่างไรก็ตาม ก.อบต.มีความเห็นว่า คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 59/2559 ใช้ข้อความในการสั่งให้กลุ่มบุคคลแต่ละกลุ่มหยุดปฏิบัติหน้าที่ต่างกัน คือ กรณีปลัด อบต.ให้ไปช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัด หรือสถานีที่ราชการอื่นในจังหวัดนั้นๆ แต่กรณีนายก อบต.ใช้คำว่า ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)เป็นการชั่วคราว จึงเสนอขอความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีรายงานว่า อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1 มีความเห็นต่อเรื่องนี้ ว่า จากคำสั่งหัวหน้า คสช.ตามข้อ 4 นั้น ผู้ที่มีรายชื่อกลุ่มที่ 4 “ข้าราชการ อปท.” ที่ไปช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัด ที่ อปท.นั้นตั้งอยู่ ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนด แต่ต้องมิใช่ อปท.ที่ผู้นั้นปฏิบัติอยู่เดิม และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายให้เป็นผู้บังคับบัญชามีอำนาจมอบหมายมอบหมายให้ผู้นั้นปฏิบัติงานตามความเหมาะสม และมิให้บุคคลดังกล่าวได้รับเงินประจำตำแหน่ง
“ย่อมมีผลให้ข้าราชการ อปท.ผู้นั้นต้องปฏิบัติหน้าที่เดิมของตน และไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายแทน และแม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะมิได้มีผลให้ข้าราชการ อปท.ผู้นั้น ต้องพ้นจากตำแหน่งเดิมของตนก็ตาม แม้ต้องหยุดปฏิบัติราชการหรือหน้าที่เดิมของตนแล้ว จึงย่อมไม่อาจอาศัยอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งอยู่เพื่อไปดำเนินการใดๆ ได้ ตามแนวความเห็นเรื่องเสร็จที่ 1024-1025/2559 กรณีของนายกเทศมนตรี”
ขณะที่กรณีจะสามารถเข้ารับการคัดเลือกฯ ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 ได้หรือไม่ เห็นว่า ปลัด อบต.ที่ถูกคำสั่งไปช่วยราชการ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะปลัด อบต. จึงไม่อาจอาศัยอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งปลัด อบต. เพื่อเข้ารับการคัดเลือกหรือลงคะแนนเพื่อคัดเลือกผู้แทนพนักงานส่วนตำบลในคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลได้
มีรายงานว่า สำหรับ 37 ปลัด อบต.ในกลุ่มที่ 4 ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ในครั้งนั้นประกอบด้วย 1. นายวัฒนชนม์ ชาทองยศ ปลัด อบต.หนองแสง อ.วาปีปทุม 2. นายกิตติพิศุทธิ์ คชฤทธิ์ ปลัด อบต.ปอพาน อ.นาเชือก 3. นายบัณฑิต พงศ์สุวรรณ ปลัด อบต.นาภู อ.ยางสีสุราช 4. นายคมสิทธิ์ ลำเหลือ ปลัด อบต.ขามเรียน อ.ยางสีสุราช 5. นายปรีชา กลางวาปี ปลัด อบต.แวงน่าง อ.เมือง 6. นางสาวฐิตารีย์ โชติกันจานิจ ปลัด อบต.นาเชือก อ.นาเชือก 7. นายอภิเดช โททอง ปลัด อบต.ลาดพัฒนา อ.เมือง 8. นางสาวอรัญญา แคนหนอง ปลัด อบต.ห้วยแอ่ง อ.เมือง 9. นายไพบูลย์ วงศ์พิมพ์ ปลัด อบต.โคกก่อ อ.เมือง
10. นายเชาวลิต จันทวะฤทธิ์ ปลัด อบต.ภารแอ่น อ.พยัคฆภูมิพิสัย 11. นางพิมพ์ทิพย์ คณะมะ ปลัด อบต.เมืองเตา อ.พยัคฆภูมิพิสัย 12. นายปราโมทย์ รวิยะวงศ์ ปลัด อบต.ปะหลาน อ.พยัคฆภูมิพิสัย 13. นางวิลาสิณี นาเมือง ปลัด อบต.ราษฎร์พัฒนา อ.พยัคฆภูมิพิสัย 14. พ.จ.อ.โอภาส มรรคณา ปลัด อบต.หนองบัวแก้ว อ.พยัคฆภูมิพิสัย 15. นายวัชรากร วิชาโคตร ปลัด อบต.หนองบอน อ.โกสุมพิสัย 16. นายสัญชิต รัตนแสง ปลัด อบต.เหล่า อ.โกสุมพิสัย 17. นางสาวสุกัลยา สิงห์บุรมย์ ปลัด อบต.เขวาไร่ อ.โกสุมพิสัย 18. ส.ต.ท.อุทร คิดดี ปลัด อบต.แพง อ.โกสุมพิสัย 19. ส.ต.ท.เชิดชัย พิกุลทอง ปลัด อบต.เขื่อน อ.โกสุมพิสัย
20. นางรพีพร สุวรรณเลิศ ปลัด อบต.เลิงใต้ อ.โกสุมพิสัย 21. นายยงยุทธ ประจง ปลัด อบต.กุดขอนแก่น อ.ภูเวียง 22. นายโกเมน ศิริพูล ปลัดอบต.โนนแดง อ.บรบือ 23. นายทรงเดช เพชรกอง ปลัดอบต.ดอนงัว อ.บรบือ 24. นางพิมพ์ทิพย์ นิกรสถิตย์ ปลัด อบต.หนองคูขาด อ.บรบือ 25. ว่าที่เรือตรี บุญสุข เทกอง ปลัด อบต.วังใหม่ อ.บรบือ 26. นางสาวพิรุฬห์ลักษณ์ ทาโยธี ปลัด อบต.หนองโก อ.บรบือ 27. นายสุรศักดิ์ ท่อนโพธิ์ ปลัด อบต.บัวค้อ อ.เมือง 28. นายคมเดช จันโทริ ปลัด อบต.โคกพระ อ.กันทรวิชัย 29. นายยุทธศาสตร์ วงศ์อาษา ปลัด อบต.มะค่า อ.กันทรวิชัย 30. นายสุเปรม คณาโจด ปลัด อบต.ขามเฒ่าพัฒนา อ.กันทรวิชัย
31. นายชูศักดิ์ ปักเคทา ปลัด อบต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย 32. ส.ต.ท.ชูชาติ งามพรม ปลัด อบต.เชียงยืน อ.เชียงยืน 33. นายธีรวัฒน์ ชาไชย ปลัด อบต.กู่สันตรัตน์ อ.นาดูน 34. นายทินกร อุ่นผาง ปลัด อบต.ดงดวน อ.นาดูน 35. นายสถาพร กลางประพันธ์ ปลัด อบต.หนองกุง อ.นาเชือก 36. นายวุฒิศาสตร์ เทียบดอกไม้ ปลัด อบต.ยางสีสุราช และ 37. จ่าเอก อํานาจ วินทะวุธ ปลัด อบต.บรบือ อ.บรบือ
นอกจากนั้น ยังมีรองปลัด อบต. หัวหน้าสำนักงาน อบต. ผู้อำนวยการกองช่าง ผู้อำนวยการกองคลัง 16 รายปลัดเทศบาล 2 ราย และกรรมการพนักงานส่วนตำบล จำนวน 7 ราย ที่ถูกคำสั่งในคราวเดียวกัน
มีรายงานว่า ในอดีตที่ผ่านมา นายชยาวุธ จันทร ขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้ยื่นร้องเรียนในเรื่องการทุจริตสอบแข่งขันบุคคลเพื่อบรรจุเป็นพนักงานส่วนตำบล 31 แห่ง จำนวน 207 อัตรา เนื่องจากมีหลายแห่งที่ผู้สอบได้ไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และไม่ตรงกับผลคะแนนการสอบของ ม.ราชภัฏกาฬสินธุ์ รวมถึง มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.ขอนแก่น ในฐานะเป็นสนามสอบกลาง ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้วยื่นผลคะแนนสอบมาที่กระทรวงมหาดไทย ป.ป.ช. และ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ในสมัยเป็น รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) เพื่อพิจารณาโทษทางปกครองกับผู้บริหาร อบต. และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในช่วงปลายปี 2557 จนมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับดังกล่าว
มีรายงานด้วยว่า ล่าสุด ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ อบต. จ.มหาสารคาม 18 ราย ทั้งทางอาญา และ วินัย โดยมีการเสนอ ปปง.ให้อายัดทรัพย์ด้วย