ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย หนุนไพรมารีโหวต ชี้จำเป็นอย่างยิ่ง ให้ชาวบ้านเป็นเจ้าของพรรค ไม่งั้นก็ได้ผู้แทนที่ประจบสอพลอผู้ใหญ่พรรค อ้างมีคนเคยบอกต้องเลือก ส.ส.ด้วยความข่มขื่นเพราะพรรคจะเอา รับพรรคใหม่เสียเปรียบแน่
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จ.นนทบุรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงระบบไพรมารีโหวตว่า ประชาชนมุ่งหวังให้การเมืองประเทศเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของชนชั้นใดชนชั้นหนึ่ง หรือของใครคนใดคนหนึ่ง การจะทำให้การเมืองเป็นของประชาชนต้องทำพรรคการเมืองให้เป็นของประชาชน โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้ 1. ให้ประชาชนกำหนดผู้บริหารพรรคโดยมาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่เป็นเจ้าของพรรค 2. เงินสำหรับทำกิจกรรมของพรรคการเมือง ต้องมาจากประชาชนผู้เป็นสมาชิกพรรค หรือเจ้าของตัวจริงนั่นเอง และ 3. การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องมาจากประชาชนในเขตเลือกตั้งนั้นๆ เป็นผู้ตัดสินใจตัวบุคคล ไม่ใช่กำหนดจากหัวหน้าพรรค เลขาพรรค หรือคณะกรรมการบริหารพรรค
นายสุเทพกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตาม ต้องมีคนไม่ชอบ โดยเฉพาะการปฏิรูปที่ต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหม่ ก็เข้าใจว่าพรรคการเมืองไม่ค่อยสะดวกสบาย แต่ประชาชนคิดการเมืองในแง่ประชาชน เพราะฉะนั้นจุดยืนอาจแตกต่างกัน ไพรมารีโหวตจำเป็นอย่างยิ่ง ประชาชนที่เป็นเจ้าของพรรคในเขตเลือกตั้งต่างๆ ไม่เช่นนั้นก็จะได้ผู้แทนราษฎรที่ประจบสอพลอผู้ใหญ่ในพรรค ทั้งนี้ จากประสบการณ์ด้วยตัวเองขณะปราศรัย มีผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมาบนเวทีโดยบอกว่าต้องเลือก ส.ส.คนนั้นคนนี้ ด้วยความขมขื่นทุกสมัย เพราะพรรคจะเอาคนนี้ เป็นต้น
“ยกตัวอย่างสมมุติจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ คนใหม่เสียเปรียบพรรคเก่าแน่นอน อย่างไรก็ตาม เมื่อดูตารางเวลาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ทันทีที่กฎหมายพรรคการเมืองบังคับใช้ เขาก็ต้องอนุญาตให้พรรคการเมืองเคลื่อนไหวได้ พรรคการเมืองทำไพรมารีทัน เราสามารถรับสมัครสมาชิกพรรค ตั้งสาขาพรรคในเขตเลือกตั้งต่างๆ เรียนเลยว่าถ้าผมทำพรรคการเมืองจะบอกเลยว่าในแต่ละเขตเลือกตั้ง ประชาชนที่มีอุดมการณ์เดียวกันต้องมีอย่างน้อย 1 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แล้วคน 1 เปอร์เซ็นต์จะเลือกตัวแทนของพรรค แล้วเงินที่กลัวว่าจะไม่พอ คิดว่าวันนี้ถ้าพรรคการเมืองอยู่ในใจประชาชนจริง สามารถที่จะใช้เงินบำรุงพรรคในการบริหาร” ประธานมูลนิธิฯ กล่าว