ประธาน กกต.แจงบอกว่ามีกฎหมายพิเศษหรืออาวุธลับช่วยให้ กกต.รักษาการต่อ แค่พูดเล่น สื่อไปเขียนเอง ย้ำศึกษารอบคอบก่อนชงศาล รธน.ตีความ พ.ร.ป. เผยเชิญตัวแทนการเมืองถกสัมมนาเพื่อให้การทำงานสะดวก ยันไม่ได้ยื้อรักษาเก้าอี้ พร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย
วันนี้ (7 ก.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ระบุว่า กกต.มีกฎหมายพิเศษช่วยให้อยู่รักษาการต่อไปว่า ตนพูดเล่นสนุกๆ สื่อมวลชนไปเขียนเอง ไม่ได้มีเจตนาอะไร เป็นการพูดให้ตื่นเต้น เช่นเดียวกับช่องทางในการยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ว่า กกต.มีอาวุธลับนั้นก็เป็นการพูดเล่นให้ตื่นเต้น เกิดความครื้นเครง เพราะเห็นสื่อมวลชนเครียดกัน ทั้งนี้ สำหรับช่องทางในการที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น กกต.จำเป็นต้องศึกษาให้เกิดความรอบคอบ ต้องดูว่ามีช่องทางใดบ้างที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งกระบวนการจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะ กกต.เห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามบทบัญญัติหรือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีถ้อยคำเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญบัญัญัติไว้
นายศุภชัยกล่าวถึงการจัดสัมมนายกร่างระเบียบและประกาศตามร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ทางด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ได้เชิญตัวแทนของ กกต.และตัวแทนพรรคการเมืองมาระดมความเห็นเพื่อจัดทำประกาศและระเบียบฯ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ทั้งนี้เพื่อให้การทำงานสามารถปฏิบัติได้อย่างสะดวก ไม่ติดขัด หรือมีปัญหาในภายหลัง ส่วนข้อกังวลว่าหากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งโดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.มีปัญหาภายหลังจนต้องมีการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย หรือส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะส่งผลต่อโรดแมปการเลือกตั้งนั้น ส่วนตัวเห็นว่าประเด็นนี้ยังเป็นเรื่องของเหตุการณ์ในอนาคต เพราะการจะตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย หรือส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น จำเป็นต้องดูว่าเนื้อหาของร่างฯ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ การดำเนินการสิ่งใดต้องมีเหตุและผล ไม่ใช่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ หรืออยากจะยื่นอะไรก็ยื่น
“ขอยืนยันว่าการดำเนินการของ กกต.ดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมายที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ ไม่ได้ยื้อหรือต้องการรักษาเก้าอี้ พวกเราไม่ติดยึด จะให้ออกจากตำแหน่งวันนี้หรือวันไหนเราก็ต้องออก เมื่อกฎหมายออกมาอย่างไร เราพร้อมปฏิบัติตาม“