“อธิบดี พช.เผยตลาดคลองผดุงฯ สุดคึก ช่วง 2 เดือนกว่า กวาดยอดขายพุ่งกว่า 134 ล้าน เชิญชวนประชาชนร่วมสนับสนุนสินค้าดีราคาถูกผลิตภัณฑ์ฝีมือคนไทย ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน เตรียมขนราชินีผลไม้ “มังคุด-สับปะรดห้วยมุ่น” ถูกและดีมาให้ชิมถึงที่
วันนี้ (4 ก.ค.) นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวถึงการจัดงาน Thailand's Best Local Product สุดยอดสินค้าหลากหลายทั่วไทยหาได้ในที่เดียว ประจำเดือน ก.ค. ที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม บริเวณทำเนียบรัฐบาล โดยได้กล่าวเชิญชวนประชาชนไปเยี่ยมชม และซื้อสินค้าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ฝีมือของคนไทยในงานดังกล่าว ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชนเป็นเจ้าภาพจัด 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.ถึง 24 ก.ค. โดยได้นำผู้ประกอบการและเกษตรกรกว่า 800 ราย มาจำหน่ายให้ในราคาย่อมเยา นำผลิตภัณฑ์ที่เด่นที่สุดในแต่ละจังหวัดมาจำหน่าย นอกจากนั้น ยังได้พบกับสินค้าของบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีประเทศไทย จำกัด ที่ระดมผลิตภัณฑ์เด่นของแต่ละจังหวัดมาร่วมแสดงด้วย อย่างไรก็ตาม ผ่านมาแล้วกว่า 2 เดือน สามารถสร้างยอดจำหน่ายถึงวันที่ 3 ก.ค.แล้ว รวมทั้งสิ้น 134,146,719 บาท และมีผู้เยี่ยมชมงาน 227,382 คน
สำหรับงานช่วงที่ 3 จะจัดระหว่าง 1-24 ก.ค.ด้วยธีม “Local Tourism” เน้นการเสนอผลิตภัณฑ์จากหมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชม อาทิ ผ้าหมักโคลน จว.มุกดาหาร ผ้าไหมนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ผ้าตีนจก จ.อุตรดิตถ์ ผ้าบาติก จ.นราธิวาส เสื่อกกจันทบูร จ.จันทบุรี หมอนขิดยางพารา จว.ยโสธร เครื่องจักสาน จังหวัดเลย และ สบู่รังไหม จ.อุบลราชธานี ผลิตภัณฑ์จากกะลา จ.เชียงใหม่ และ เซรามิก จ.ลำปาง ผลไม้แปรรูป จ.เพชรบุรี และกล้วยฉาบ จ.สุโขทัย ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง จ.ภูเก็ต หมี่เบตง จ.ยะลา ปูนิ่มทอด จ.ระนอง ผัดหมี่ จ.นครราชสีมา ไก่ย่างเขาสวนกวาง ลำไยปลอดสาร จ.ลำพูน มังคุดและทุเรียน จ.ระยอง สับปะรดห้วยมุ่น จ.อุตรดิตถ์ และ เงาะนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น
นอกจากนี้ ในวันที่ 5 ก.ค. ประชาชนสามารถมาเลือกซื้อมังคุดรสชาติดี ราคาถูก จากเกษตรกรที่ประสบปัญหาขาดสถานที่จำหน่ายในราคาเพียงกิโลกรัมละ 35 บาท และตั้งแต่ 7-24 ก.ค. บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีประเทศไทย จำกัด และบริษัทภาคเอกชนที่ร่วมโครงการสานพลังประชารัฐ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ยังได้จัดเคมเปญชุดใหญ่ จำหน่ายสับปะรดห้วยมุ่น จ.อุตรดิตถ์ ในราคาหน้าสวน ทั้งขายปลีกและส่งนำมาจำหน่ายถึง 15 ตัน นับเป็นการช่วยเหลือช่องทางการจัดจำหน่ายให้แก่เกษตรกรและได้บริโภคสินค้าดีราคาถูกไปพร้อมกัน
“ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจมาเข้าชมไฮไลต์ต่างๆ ภายในงานที่เชื่อว่าตลอดช่วง 3 เดือนที่จัดงานในแต่ละเดือนสินค้าจะไม่ซ้ำกันอย่างแน่นอน เนื่องจากยังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่จะทยอยมาร่วมจัดแสดง จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงการตลาดจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง ก่อให้เกิดรายได้จำนวนมหาศาลกระจายไปยังผู้ประกอบการและเกษตรกรได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายรัฐบาลได้อีกทางหนึ่งด้วย” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว