xs
xsm
sm
md
lg

“อุดมเดช” รู้แล้ว “สะมะแอ” ถูกจับครอบครองอาวุธที่มาเลย์ รับ “พาคนกลับบ้าน” มีบกพร่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
รมช.กลาโหม รู้แล้ว “สะมะแอ ท่าน้ำ” โดนจับที่มาเลเซียคดีครอบครองอาวุธสงคราม เผยข้ามไปเพื่อนบ้านหลังครบพักโทษ ยังไม่ได้รับตัวกลับไทย โวยถูกเรียกโครงการพาคนกลับบ้านเป็นพาโจรกลับบ้าน ยันเอาเฉพาะความผิดอาญาไม่รุนแรง แต่รับมีบกพร่องเหตุคนเยอะ เผยคณะพูดคุยสันติสุขไม่หยุดนิ่ง เตรียมลงกำหนดพื้นที่ปลอดภัย ตั้งคณะทำงานร่วมสองฝ่าย

วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวถึงการทางการมาเลเซียจับกุมตัวนายสะมะแอ ท่าน้ำ ว่าในเบื้องตนทราบว่าถูกจับที่มาเลเซียในคดีครอบครองอาวุธสงคราม ทั้งนี้ ประวัติของเขาถูกทางการไทยจับได้ตั้งแต่ปี 2540 มีโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ได้รับการลดโทษเหลือ 29 ปี เนื่องจากประพฤติตัวดี และหลังจากรับโทษได้ 18 ปีจึงมีการพิจารณาว่าสามารถช่วยเหลือราชการในการให้แนวคิดให้คนหลงผิดได้จนได้รับการพักโทษ โดยพักโทษมาแล้ว 13 เดือน ได้มีการติดตามพฤติกรรมมาตลอดในระหว่างการพักโทษด้วย แต่เมื่อหมดห้วงเวลาพักโทษแล้วก็จบสิ้นที่รัฐบาลจะติดตามพฤติกรรม นายสะมะแอก็เดินทางข้ามไปมาเลเซียได้และประกอบอาชีพกระทั่งถูกจับกุมตัว ตอนนี้ยังไม่ได้รับตัวกลับมาที่ไทย ต้องรอความคืบหน้าจากทางการมาเลเซีย

พล.อ.อุดมเดชกล่าวด้วยว่า โครงการพาคนกลับบ้านของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) เป็นโครงการที่ดีแต่บางคนอาจมองในแง่มุมหนึ่งจนเพี้ยนคำพาคนกลับบ้านเป็นพาโจรกลับบ้าน ซึ่งไม่ดี เพราะโครงการนี้เป็นการให้โอกาสผู้หลงผิด แต่ถ้าคนที่ทำผิดถึงขั้นเป็นคดีอาญาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่คนที่เราเอาเข้าโครงการพาคนกลับบ้านนี้ ความผิดจะไม่ถึงขั้นคดีอาญา ไม่รุนแรงขั้นอาญาแผ่นดินเราก็นำเข้าโครงการเพื่อให้เขามีโอกาสกลับเนื้อกลับตัว โดยมีขั้นตอนการคัดกรองและมีการนำเข้าปรับความรู้สึกนึกคิด รับการอบรมแล้ว แต่ที่ผ่านมายอมรับว่าอาจมีข้อบกพร่อง มีการปล่อยและละเลยเพราะมีจำนวนคนเยอะมากกว่า 4 พันคน เพียงแต่คัดกรองให้ดี ดูว่าเหมาะสมที่จะเข้ามา หรือมีอะไรแอบแฝงหรือไม่

นอกจากนี้ พล.อ.อุดมเดชยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการทำงานของคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ ว่าไม่ได้หยุดนิ่ง คณะพูดคุยสองฝ่ายเตรียมลงพื้นที่กำหนดพื้นที่ปลอดภัย Safety zone จากนั้นจะตั้งคณะทำงานร่วม JAC-Joint Acting Committee ที่มีทั้งฝ่ายไทย-มาเลเซีย และประชาชนในพื้นที่

“มีการทำงานตลอด ไม่ได้หยุดนิ่ง มึการประสานข้อมูล พูดคุยกันตลอด โดยมีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก ในส่วนของความคิดเห็นที่ยังไม่ตรงกัน พร้อมทั้งประสานทางมาเลเชียเพื่อให้นำตัวบุคคลที่เห็นต่างเข้าร่วมพูดคุยอย่างตรงประเด็น” พล.อ.อุดมเดชกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น