“สนช.วัลลภ” ถามปมอูเบอร์ รมช.คมนาคมแจงกำลังศึกษาเอาเข้ามาวิธีใด เล็งทำให้ถูกหรือออกกฎหมายใหม่ แต่ต้องทำให้รอบคอบ ด้านคนขับแท็กซี่โผล่จอดรถยืนชูป้ายขอความเป็นธรรม โวยแกร็บ-อูเบอร์จงใจแย่งงาน ทำลายอุตสาหกรรมไทย ซัดจ่ายผ่านบัตรเครดิตนำเงินบาทออกนอกประเทศ จี้จดทะเบียน
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณากระทู้ถามของนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. ที่ถามกระทรวงคมนาคมถึงปัญหาการให้บริการรถยนต์ป้ายดำผ่ายแอปพลิเคชัน หรืออูเบอร์ เกี่ยวกับนโยบายในการให้บริการรถอูเบอร์ให้ถูกกฎหมายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการรถยนต์สาธารณะหรือไม่ ขณะเดียวกัน มีมาตรการไม่เกิดการกระทบกระทั่งกันหรือความขัดแย้งระหว่างผู้ขับแท็กซี่กับผู้ขับรถอูเบอร์หรือไม่
โดยมีนายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มาชี้แจงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของกระทรวงว่าจะนำอูเบอร์เข้ามาในระบบโดยวิธีการใดซึ่งก็มีอยู่ 2 แนวทาง คือ ทำให้ถูกกฎหมายหรือออกกฎหมายใหม่ ซึ่ทั้ง 2 แนวทางก็มีข้อดีและข้อเสียที่จะต้องศึกษาให้รอบคอบและมีคำตอบให้ชัดเจนเพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะประชาชนผู้ใช้บริการ ตัวแท็กซี่ที่มีประมาน 120,000 คัน รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม บริเวณด้านนอกรัฐสภาได้มีกลุ่มผู้ขับแท็กซี่สาธารณะกว่า 30 คนนำรถแท็กซี่มาจอดเป็นแถวยาวหน้าบริเวณรัฐสภา พร้อมทั้งชูป้ายเพื่อคัดค้านรถอูเบอร์ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความเรียบร้อยด้วย
ทั้งนี้ นายวรพล แกมขุนทด นายกสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ผ่านสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบอาชีพรถแท็กซี่ที่อยู่ภายใต้กฎหมาย พ.ร.บ. 2522 โดยนายวรพลกล่าวว่า ปัจจุบันมีการสนับสนุนต่างชาติ เช่น บริษัท อูเบอร์ ได้เข้ามาทำธุรกิจรับส่งผู้โดยสารและบริษัท แกร็บคาร์ ที่เข้าทำธุรกิจประเภทเดียวกัน ถือเป็นการจงใจแย่งงานและทำลายอุตสาหกรรมประเทศไทย เป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากใช้รถบ้านหรือรถป้ายดำ ในการวิ่งรับส่งผู้โดยสาร นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังจ่ายค่าโดยสารผ่านบัตรเครดิต อันเป็นการนำเงินรายได้ที่ควรเป็นของคนไทยออกนอกประเทศ ดังนั้น ถ้าบริษัท อูเบอร์ ต้องการจะทำธุรกิจนี้ในประเทศไทยต่อ ต้องจดทะเบียนรถยนต์เป็นรถสาธารณะ และมีใบขับขี่สาธารณะ จึงขอความเป็นธรรมและคัดค้านในการดำเนินการที่ผิดกฎหมายด้วย