ผู้ประสาน คป.ตร.ยื่นจดหมาย “ประยุทธ์” เร่งดำเนินการตาม ม.260 พร้อมเสนอ 5 ข้อ คุณสมบัติผู้ที่จะเป็น คกก.ปฏิรูปตำรวจ หนุนกระจายอำนาจ แยกสอบสวนจาก สตช.
วันนี้ (19 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน (ฝั่งสำนักงาน ก.พ.) นางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (คป.ตร.) ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อสนับสนุนให้ปฏิบัติตามมาตรา 260 ของรัฐธรรมนูญ ในหมวดการปฏิรูปประเทศ ที่กำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ พร้อมทั้งเสนอคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นคณะกรรมการฯ 5 ข้อ ประกอบไปด้วย 1. คณะกรรมการต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และความมุ่งมั่นในการปฏิรูปตำรวจ มีประวัติดีเด่นในการทำงานเสริมสร้างความเป็นธรรมให้แก่สังคม 2. กรรมการที่มาจากตำรวจต้องเป็นตำรวจที่ซื่อสัตย์ มีสัมมาทิฐิ ต้องยึดมั่นในความยุติธรรม ความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ และเข้าใจปัญหาของคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนา
3. ไม่ทำตัวเป็นอุปสรรค ขัดขวางการปฏิรูปตำรวจ หรือเข้ามาเพื่อรักษาอำนาจ ผลประโยชน์ หรือคอยปกป้องวัฒนธรรมการทำผิดขององค์กรตำรวจ 4. มีอุดมการณ์เพื่อการทำดีให้คนทั้งประเทศ เสียสละเพื่อการปกป้องความยุติธรรม ความถูกต้อง และมีจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และความอยู่ดีกินดีของประชาชน 5. ไม่มีประวัติด่างพร้อย ไม่เป็นผู้ที่นิยมการเล่นพรรคเล่นพวก มีความเป็นอิสระจากอำนาจอิทธิพลใดๆ หรือไม่รับใบสั่งเพื่อผลักดันการปฏิรูปไปในทางที่มิชอบ
พร้อมกันนี้ทางเครือข่าย คป.ตร.ยังขอสนับสนุนแนวทางของนายกรัฐมนตรีในการกระจายอำนาจให้มีตำรวจจังหวัด และการแยกอำนาจในการสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีความเป็นอิสระและเป็นกลางกระจายอำนาจลงสู่ท้องที่
วันนี้ (19 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน (ฝั่งสำนักงาน ก.พ.) นางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (คป.ตร.) ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อสนับสนุนให้ปฏิบัติตามมาตรา 260 ของรัฐธรรมนูญ ในหมวดการปฏิรูปประเทศ ที่กำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ พร้อมทั้งเสนอคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นคณะกรรมการฯ 5 ข้อ ประกอบไปด้วย 1. คณะกรรมการต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และความมุ่งมั่นในการปฏิรูปตำรวจ มีประวัติดีเด่นในการทำงานเสริมสร้างความเป็นธรรมให้แก่สังคม 2. กรรมการที่มาจากตำรวจต้องเป็นตำรวจที่ซื่อสัตย์ มีสัมมาทิฐิ ต้องยึดมั่นในความยุติธรรม ความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ และเข้าใจปัญหาของคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนา
3. ไม่ทำตัวเป็นอุปสรรค ขัดขวางการปฏิรูปตำรวจ หรือเข้ามาเพื่อรักษาอำนาจ ผลประโยชน์ หรือคอยปกป้องวัฒนธรรมการทำผิดขององค์กรตำรวจ 4. มีอุดมการณ์เพื่อการทำดีให้คนทั้งประเทศ เสียสละเพื่อการปกป้องความยุติธรรม ความถูกต้อง และมีจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และความอยู่ดีกินดีของประชาชน 5. ไม่มีประวัติด่างพร้อย ไม่เป็นผู้ที่นิยมการเล่นพรรคเล่นพวก มีความเป็นอิสระจากอำนาจอิทธิพลใดๆ หรือไม่รับใบสั่งเพื่อผลักดันการปฏิรูปไปในทางที่มิชอบ
พร้อมกันนี้ทางเครือข่าย คป.ตร.ยังขอสนับสนุนแนวทางของนายกรัฐมนตรีในการกระจายอำนาจให้มีตำรวจจังหวัด และการแยกอำนาจในการสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีความเป็นอิสระและเป็นกลางกระจายอำนาจลงสู่ท้องที่