xs
xsm
sm
md
lg

เวทีปรองดองชี้ ขาดความยุติธรรมคือรากเหง้าความขัดแย้ง แนะยึดประโยชน์ส่วนรวม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
ประธานอนุ กก.ประชาสัมพันธ์ เผยการรับฟังความเห็นประเด็นด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ภาพรวมชี้การขาดซึ่งความยุติธรรมคือสาเหตุรากเหง้าของความขัดแย้งและความไร้เสถียรภาพ ของสังคม แนะยึดประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวเป็นส่วนสำคัญ ลดความเหลื่อมล้ำ

วันนี้ (14 มิ.ย.) พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ เปิดเผยผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศ จากเวทีการสร้างความสามัคคีปรองดองที่ผ่านมา ต่อประเด็นด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งได้รับความสนใจลำดับต้นๆ โดยในภาพรวมมีความเห็นร่วมสอดคล้องกันว่า “การขาดซึ่งความยุติธรรมคือสาเหตุรากเหง้าของความขัดแย้งและความไร้เสถียรภาพของสังคม”

ประชาชนร่วมกันสะท้อนว่า ปัญหาระบบกฎหมายไทยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในสังคม ไม่ว่าจะเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เหมาะสมกับสภาพและลักษณะของสังคม ความไม่เข้าใจเรื่องกฎหมายของตัวบุคคล การใช้ช่องว่างของกฎหมายในการกระทำความผิด ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายของผู้มีอำนาจ ไม่จริงจัง เสมอภาคและเป็นธรรม จึงมีความจำเป็นที่ทุกคนในสังคมรวมทั้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบและกระบวนการยุติธรรม ควรคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมให้มากกว่าประโยชน์ส่วนตน ซึ่งจะทำให้ประเทศมีความสงบสุขและไม่เกิดความขัดแย้งกัน

โดยมีประเด็นความเห็นร่วมที่สอดคล้องกัน ประกอบด้วย ความจำเป็นที่ภาครัฐต้องทบทวนกฎหมายให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับความเป็นจริงของสังคมและกติการะหว่างประเทศ โดยลดหรือยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น ปรับปรุงกฎหมายที่ขาดความชัดเจน รวมทั้งพิจารณาและดำเนินการแก้กฎหมายที่ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในสังคม รัฐจำเป็นต้องสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือในระบบนิติรัฐและนิติธรรม ซึ่งปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงำ มีกลไกที่เข้มแข็ง เป็นธรรมในการตรวจสอบขั้นตอนและองค์กรที่ใช้อำนาจตามกระบวนการยุติธรรม โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนและส่งเสริมการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม อย่างไม่เลือกปฏิบัติ เป็นกลางและปราศจากอิทธิพลทางการเมือง ร่วมกับการส่งเสริมให้มีระบบยุติธรรมทางเลือกหรือกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ โดยนำประชาชนมาเป็นหุ้นส่วนในการจัดการกับความขัดแย้ง เพื่อให้คู่กรณีได้มีการไกล่เกลี่ยหาข้อยุติร่วมกัน

ในขณะเดียวกัน รัฐโดยหน่วยงานและเจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรมทั้งระบบต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เสมอภาค และเป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติ โดยคำนึงถึงความรวดเร็วและเท่าเทียมกันในทุกกรณีเพื่อให้เกิดการยอมรับในความเสมอภาค โดยเฉพาะตำรวจซึ่งดำเนินงานยุติธรรมต้นทาง ทั้งนี้ รัฐจำเป็นต้องเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมาย การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ แก่เยาวชนและประชาชนควบคู่กันไป เพื่อตรวจสอบ ถ่วงดุลหน่วยงานทางกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.คงชีพกล่าวเพิ่มเติมว่า ความตื่นตัว ตระหนักรู้ และการมีส่วนร่วมของประชาชนด้านกระบวนการยุติธรรม ควบคู่กับความมุ่งมั่นจริงใจของรัฐในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ โดยร่วมกันยึดเอาประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวจะเป็นส่วนสำคัญให้สังคมสามารถลดความเหลื่อมล้ำและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติสุข
กำลังโหลดความคิดเห็น