นายกรัฐมนตรี ยันยังไม่อนุญาตให้อดีต ส.ส.นัดพบเป็นคณะใหญ่ ขออย่าเพิ่งเลย ขอโทษค้นบ้านนักการเมืองทำเสียชื่อ ถ้าไม่พบผิดก็ต้องให้เกียรติกัน ปัดเล่นเกมการเมือง ให้สืบต่อบึ้มโรงพยาบาลเกี่ยวพันเรื่องอะไร ป้องฝ่ายความมั่นคงบอกบางคดียากง่ายต่างกันไป
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีอดีต ส.ส.กว่า 50 คน ไม่พอใจที่ถูกสั่งยกเลิกการพบปะสังสรรค์ว่า ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่เพิ่งมารู้ข้อมูลจากสื่อมวลชน ทั้งหมดเป็นเรื่องของความเหมาะสม การจะรับประทานอาหารร่วมกัน ต้องดูว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่ โดย คสช.จะพิจารณา ซึ่งข้อมูลต่างๆ บางครั้งจะได้รับแจ้งจากประชาชน จึงจำเป็นจะต้องตรวจสอบ ยืนยันว่าตนยังไม่อนุญาตให้ดำเนินการในลักษณะนี้ หมายถึงการพบปะกันเป็นคณะใหญ่ เพราะจะไม่พ้นการหารือกันในประเด็นการเมือง วันนี้จึงขอร้องกันไว้ก่อน ขออย่าเพิ่งเลย อย่าทำให้เกิดความวุ่นวาย สับสนอลหม่าน และจะมีผลกระทบต่อการทำงานของตนในเวลานี้
ส่วนกรณีที่ทหารค้นบ้านพักนักการเมืองหลายคน แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้ถูกมองว่า คสช.กำลังเล่นเกมการเมือง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้มีการทำความเข้าใจกับหน่วยงานในพื้นที่แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่มีข่าวสารและข้อมูลในบางส่วน โดยอาจจะเป็นคนใกล้ชิดหรือลูกน้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่ไม่ได้พาดพิงถึงเจ้าตัว เป็นเพียงเรื่องของลูกน้อง อย่างไรก็ตาม ต้องขอโทษด้วยหากทำให้เสียชื่อและเกียรติยศ เมื่อไม่พบว่ากระทำความผิด ก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ยืนยันว่าไม่ได้เล่นเกมการเมืองใดๆทั้งสิ้น เพราะบ้านเมืองจะมาเล่นเกมการเมืองคงไม่ใช่ ตนไม่มีเกมการเมือง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความคืบหน้าจับกุมการซื้อขายอาวุธสงครามที่ จ.ตราด โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านว่า จากวันแรกถึงวันนี้จับกุมไปกี่คนแล้วก็ต้องสอบสวนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้ข้อมูลเอง จะไปตั้งเป้าว่าเรื่องเกิดจากตรงนู้นตรงนี้และให้มีการจับกุมที่เดียวคงทำไม่ได้ เพราะการทำงานในลักษณะความมั่นคง ต้องทำต่อเนื่องมีการสืบสวนสอบสวนใช้เวลาในการเรียกประจักษ์พยานมาสืบ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้านั้น ตนยังพูดไม่ได้ ซึ่งได้เป้าหมายมาแล้ว ต้องสอบสวนต่อไป ก็ต้องไปดูว่ามีความเกี่ยวพันเรื่องอะไร หลายอย่างหลายคนไม่เข้าใจ ว่าทำไมยังเกิดขึ้นอยู่ ทั้งที่รัฐบาลมีอำนาจเต็มแสดงว่าฝ่ายความมั่นคงทำงานไม่ดี ไม่ได้หรือ การข่าวล้มเหลวหรือ ไปดูที่มันจับได้บ้างสิ ก็ดีขึ้นไม่ใช่หรือ หลายคดีก็เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายตั้งเยอะ บางคดียากง่าย แตกต่างกันไปก็ต้องให้เวลาในการทำงาน
