วงประชุมแร่แห่งชาติ ตั้งอนุกรรมการจัดทำแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ ยึดหลักกฎหมายปี 60 ดึงประชาขนมีส่วนร่วม คำนึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม ย้ำปัญหาการทำเหมืองแร่ทองคำ จ.พิจิตร ยึดคำสั่ง ม.44 ห้าม บ.อัครา เดินหน้าประกอบการ ตั้ง กก.กรณีถูกฟ้อง
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการ นโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้มีการแต่งตั้งอนุกรรมการชุดต่างๆ ภายใต้พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 ซึ่งในอดีตการบริหารจัดการแร่จะยึดตามกฎหมายฉบับเก่าที่ใช้มาตั้งปี 2510 แต่ปัจจุบันเนื่องจากการทำเหมืองแร่มีความซับซ้อนขึ้นต้องคำนึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่อชุมชนด้วย
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการที่จัดตั้งขึ้นจะทำในเรื่องแผนแม่บทเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน และพิจารณาเรื่องของหินอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปูนซีเมนต์ หินก่อสร้าง การพัฒนาแร่โปแตชในประเทศไทย เรื่องแร่พลังงานทดแทน รวมถึงนโยบายเรื่องของแร่ทองคำ ซึ่งตัวกฎหมายใหม่จะมีความเข้มข้นกว่าเดิม และทำหน้าที่ศึกษาบทเรียนจากปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต
ด้านนายสมบูรณ์ ยินดียั่งยืน อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณากรอบการบริหารจัดการเหมืองแร่ทองคำซึ่งมี 4 ด้าน ประกอบด้วย การมีส่วนร่วมของชุมชน การขออนุญาต การกำกับดูแล และการให้ผลประโยชน์ต่อท้องถิ่น โดยที่ประชุมได้มีข้อสังเกตต่างๆ ซึ่งจะนำไปปรับปรุงในรายละเอียดต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำเหมืองแร่ทองคำที่จังหวัดพิจิตรของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด นายสมบูรณ์กล่าวว่า การดำเนินการยังเป็นไปตามคำสั่งมาตรา 44 ที่ห้ามให้บริษัทเข้าประกอบการเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งก็ต่อเมื่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งได้ข้อสรุปในการดำเนินการเสียก่อน โดยเบื้องต้นพบว่าการตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้ข้อยุติแล้ว โดยในพื้นที่ตรวจสอบสารโลหะหนัก แต่ไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นสารที่เกิดขึ้นจากการทำเหมือง จึงไม่จำเป็นต้องดำเนินการพิสูจน์ทราบต่อ ขณะที่รายงานผลกระทบด้านสุขภาพยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเนื่องจากติดขัดปัญหากรณีไม่มีข้อมูลพื้นฐานด้านสุขภาพของประชาชนในช่วงก่อนการทำเหมือง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้รับผิดชอบอยู่ระหว่างดำเนินการหาทางออกต่อไป
ส่วนกรณีที่บริษัท คิงส์เกต บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด เตรียมดำเนินการฟ้องรัฐบาลกรณีที่มีคำสั่งมาตรา 44 ให้ยุติการทำเหมืองนั้น นายสมบูรณ์กล่าวว่า รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน ซึ่งจะมีการพูดคุยกับบริษัท คิงส์เกต ครั้งแรกในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ เพื่อรับฟังทางบริษัทฯ ว่ามีกรอบการเจรจาอย่างไรต่อไป
ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัท อัคราฯ ได้ยื่นเรื่องขอนำแร่ทองคำที่อยู่ในกระบวนการแต่งแร่ จำนวน 1.6 ตันออกมาจำหน่าย และขอเข้าไปกำจัดสารไซยาไนด์ที่ตกค้างอยู๋ภายในโรงงาน ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปต่อไป