“บิ๊กแก้ว” ยันมีมาตรการสร้างความเชื่อมั่นท่องเที่ยว เผยดูแลคลังแสงดีไม่เล็ดลอด

ผบ.พล.ม.2 รอ.ยันมีมาตรการสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว หลังไทยถูกระบุติด 20 อันดับประเทศอันตราย ชี้ ตม.รีเช็กชื่อตามโรงแรมเป็นเรื่องปกติ เผย พล.ม.2 ดูแล “อาวุธ-ยุทโธปกรณ์” ดี ไม่มีปัญหาเล็ดลอด

วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.พล.ม.2 รอ. กล่าวถึงกรณีที่เว็บไซต์บิสิเนสอินไซเดอร์ ออสเตรเลีย เปิดเผยโดยอ้างรายงานขีดแข่งขันด้านการท่องเที่ยวจัดทำโดยเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ว่าไทยติดอันดับที่ 19 ใน 20 ประเทศที่อันตรายสำหรับนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ว่าเรามีการสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยและดูแลพื้นที่ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าในพื้นที่ทั่วไปที่ประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมากหรือพื้นที่ที่เป็นพื้นที่เป้าหมาย มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี และในปัจจุบันก็จะมีการคัดกรองตามระดับการรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่คอยตรวจตราซึ่งบางพื้นที่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องขอตรวจบุคคลที่เข้ามาภายในพื้นที่ เช่น การตรวจกระเป๋า นอกจากนั้นการติดตามบุคคลที่มีขีดความสามารถในการก่อเหตุ ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่สืบสวนสอบสวนก็ได้มีการเข้าดำเนินการกับกลุ่มต้องสงสัยต่างๆ ทั้งนี้เราได้กระจายความมือไปยังประชาชนให้ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้

พล.ต.เฉลิมพลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พล.ม.2 รอ.ยังดูแลเรื่องที่พักโดยเฉพาะโรงแรมที่มีชาวต่างชาติเข้าพัก เพราะยังมีช่องว่างที่บางโรงแรมไม่แจ้งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ ว่ามีใครเข้าพักบ้างเพราะตามระเบียบทางโรงแรมต้องส่งรายชื่อแขกที่เข้าพักกับเจ้าหน้าที่ทุกวัน ถือเป็นการทำงานที่ปกติและมีมานานแล้ว เหมือนกับที่เราเดินทางไปต่างประเทศก็ต้องระบุว่าเข้าพักที่ไหนอย่างไร ซึ่งประเทศไทยก็ต้องดำเนินการเช่นนั้น เมื่อมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาก็ต้องแจ้งต่อสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ว่าจะเข้าพักที่ไหน หลังจากนั้นทางตม.และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่จะทำการตรวจสอบรายชื่อแขกอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามมาตรการสากล

เมื่อถามถึงการดูแลอาวุธยุทโธปกรณ์ภายในหน่วยเพื่อป้องกันกำลังพลลักลอบนำไปขายนอกหน่วย พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่าในส่วนของตนซึ่งถือเป็นหน่วยกำลังรบ จะมีอาวุธ และกระสุนในส่วนที่มีความจำเป็นที่จะต้องนำไปใช้ปฏิบัติการทันที เพราะฉะนั้นการเก็บรักษาและการดูแลปริมาณ รวมถึงการตรวจ ในส่วนนี้เราสร้างความมั่นใจได้ว่าทางเจ้าหน้าที่มีการตรวจทุกสัปดาห์ และกำหนดระเบียบความรับผิดชอบอาวุธ โดยมีการระบุชื่อเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ อีกทั้งยังมีการทำความสะอาดทุกสัปดาห์ ส่วนเรื่องวัตถุและกระสุนมีการเก็บรักษาอย่างดีภายในโรงเก็บ ซึ่งการจะเข้าไปในสถานที่เหล่านั้น จะมีการบันทึกชื่อเข้า-ออก รวมถึงมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด และเก็บรักษากุญแจโดยผู้บังคับ

“หน่วยปฏิบัติแบบเราจะไม่มีปัญหาเรื่องอาวุธ ยุทโธปกรณ์ การเล็ดลอด เพราะมีปริมาณไม่มาก และเรามีมาตรการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด เพราะเราเป็นผู้ใช้และผู้ปฏิบัติ ผมขอยืนยันได้ในเรื่องเหล่านี้” พล.ต. เฉลิมพลกล่าว