“ประยุทธ์” หอบคณะบินดูงานจันทบุรี มอบปัจจัยการผลิต ยันดูแล 70 ล้านคนเท่าเทียม ไม่เทงบกระจุกตัว ขอระวังที่มาการผลิต ชี้โลกตรวจสอบอยู่ ลั่นเป็นทหารผันมาทำการเมืองไม่หวังประโยชน์ เตือนขึ้นบัญชีคนจนต้องสุจริตใจ โกหกส่อผิด ขอหยุดขัดแย้ง ปรับตัวเพื่อปฏิรูป บอกยิ่งเกลียดยิ่งต้องให้ เพราะไม่หวังคะแนน ยัน ครม.ไม่ใช่พวกใครเพราะทำเพื่อ ปชช. ลั่นมีเลือกตั้งแน่ ปัดสืบทอดอำนาจ ขอท้องถิ่นทำงานให้ดี
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบาของรัฐบาล จ.จันทบุรี โดยได้เดินทางโดยรถตู้โฟล์ค ทะเบียน นก 1111 จันทบุรี มายังสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี โดยมีนายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ข้าราชการ และประชาชนกว่า 1,000 คนให้การต้อนรับท่ามกลางการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีการติดตั้งเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัย ตรวจกระเป๋า และยึดร่มไว้เป็นการชั่วคราว ท่ามกลางฝนตกเป็นระยะ
จากนั้นนายกฯ ได้รับฟังรายงานการส่งเสริมการเกษตรในรูแบบแปลงใหญ่และการบริหารจัดการผลไม้ และเป็นประธานปัจจัยการรเกษตรเพื่อมอบเงินสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนเพื่อพัฒนาการเกษตรแบบแปลงใหญ่และเครื่องจักรกลการเกษตรภายใต้โครงการ Motor pool แก่แปลงใหญ่โคนมสอยดาวจำนวน 10 ล้านบาท และสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการรับซื้อผลไม้ให้สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏจำนวน 25 ล้านบาท พร้อมมอบสถานีสูบน้ำบ้านท่าอุดมเพื่อสนับสนุนพื้นที่แปลงใหญ่ 1 โครงการ ที่สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด ต.ชากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี โดยมีนายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ข้าราชการ และประชาชนให้การต้อนรับกว่า 1,000 คน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ได้นำรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงมหาดไทยมารับฟังปัญหาที่แท้จริง ส่วนนายกฯ ดูนโยบายกติกาทั้งหมด ซึ่งได้เกิดความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนยกระดับคุณภาพผลผลิตอย่างยั่งยืน โดยการเกษตรต้องดูแลทั้งระบบ การผลิต การตลาด การแปรรูป ต้องดูให้ครบวงจรทั้งหมดต้องขับเคลื่อนตามแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้ มุ่งหวังดูแลคน 70 ล้านคน แต่หากคิดกันแค่เรื่องเงินรัฐบาลก็ไม่รู้จะเอาที่ไหนมาเติมให้ จึงขอให้เข้าใจการบริหารราชการของรัฐบาลด้วย
“รัฐบาลไม่ใช่แค่ยกระดับแค่ราคาเท่านั้น เราต้องผลิตสินค้าให้มีคุณภาพราคาจะได้ปรับสูงขึ้นไปด้วย โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณลงพื้นที่อย่างทั่วถึง ต่างจากก่อนหน้านี้ที่อนุมัติงบจะประมาณกระจุกตัว ไม่กระจายทั่วถึงทั้งประเทศ สำหรับประชาชนที่ยังไม่มีพื้นที่ทำกิน รัฐบาลก็จะจัดสรรให้ หากยังถือครองที่ดินผิดกฎหมายอยู่ก็ต้องทำให้เข้ามาอยู่ในระบบ ขอให้สบายใจรัฐบาลไม่อยากรังแกคนจนอยู่แล้ว แม้จะมีคนพยายามไปพูดว่ารัฐบาลหวังประโยชน์ มันจะหวังประโยชน์ตรงไหน รัฐบาลเดินตามแนวทางประชารัฐ ประชาชนต้องมาก่อน โดยให้ผู้ว่าราชการมีอำนานในการบริการงบประมาณ ไม่ใช่ให้ใครมาสั่งอีก โดย 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง บิดเบือนสูง แต่ผมไม่ไปทะเลาะด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวแนะนำเกษตรกรให้สามารถเรื่องราวของผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าและตรวจสอบคุณภาพผลผลิต เพราะนานาประเทศมีระบบตรวจสอบที่มาของการผลิต เพราะโลกมีกติกาดูแลอยู่ ดังนั้นเราต้องเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับโลกาภิวัตน์ ด้วยการจับกลุ่มสร้างเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อให้เข้มแข็งไปด้วยกัน และวันข้างหน้าหากมีคนคิดให้ทุเรียนมีน้ำตาลน้อย แต่รสชาติเหมือนเดิมก็จะเพิ่มการขายได้ เราต้องพัฒนาผลผลิตและควบคุมคุณภาพการเกษตรให้ได้ และต้องแก้ปัญหาให้ได้
พล.อประยุทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนที่เรียกร้องให้ปลดหนี้สินต่างๆ รัฐบาลคงทำทั้งหมด จึงต้องมีโครงการประนอมหนี้ แต่หลังจากรัฐบาลให้ลงทะเบียนก็มีประชาชนไม่เข้าหลักเกณฑ์คุณสมบัติที่กำหนดเยอะ ทุกคนจึงต้องสุจริตในการมาขึ้นบัญชีเพราะหากตรวจสอบเจอก็จะมีความผิด เพราะเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
“ผมเองก็ต้องแก้ตัวเองเพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน เพราะเป็นทหารแต่วันนี้มาทำการเมืองไม่ได้มุ่งหวังอะไรทั้งสิ้น มุ่งหวังเพื่อแก้ไขปัญหาให้พวกท่าน คนเป็นหนี้ถือว่ามีเกียรติ แต่ไม่ถ้าไม่ใช่หนี้ก็เสียเกียรติ ทุกคนอาจมีหนี้ ผมเองก็เคยมีหนี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้อยากพูดให้เห็นว่าพวกเรามีความจริงใจ ทหาร ตำรวจ ถือเป็นความรับผิดชอบต้องช่วยเหลือประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าเพื่อปวงชนชาวไทย อย่าให้ใครมาชักจูงท่านไปทำให้เกิดวุ่นวาย เสียเวลาทำกินเปล่าๆ อันตรายด้วย วันหน้าต้องไม่เกิดขึ้น สัญญาไหม อย่าให้เขาหลอกเอาอีก หลอกให้ตายก็อย่าไปอีก เสร็จแล้วก็เดือดร้อนไปหมด เดี๋ยววันนี้ตนก็โดนอีกหาว่าไปอย่างนี้อย่างนั้น ตนไม่ได้ว่าใครเลย ใครไม่ดีก็รับไปแล้วกัน ตนก็ต้องพูดอย่างนี้ เพราะตนเข้ามาแบบนี้ รู้ดีว่าเข้ามาอย่างไร ดังนั้นต้องเอาสิ่งที่เป็นวิกฤตของตนเป็นโอกาสให้ท่าน ไม่ใช่เอาวิกฤตมาทำให้เกิดวิกฤตมากกว่าเดิม ถ้าทำแบบเดิมๆ ไม่คิดอะไรใหม่ๆ ไม่ไปดูทั้งระบบ ให้เป็นกลุ่มๆ ประเทศไทยก็ติดอยู่อย่างนี้ เราต้องดูแลทั้งหมด รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย จังหวัด ต้องปรับตัวเองทั้งหมด อย่างนี้ถึงเรียกว่าการปฏิรูปประเทศถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ไม่ใช่จะเรียกร้องกระจายอำนาจอย่างเดียว ต้องคิดว่าเราจะแก้ไขปัญหาอย่างไรแล้วถึงจะกลับมาทำโครงการ ไม่ใช่เอาโครงการเป็นตัวตั้งแล้วใช้งบประมาณจนหมด ตองแบ่งสันปันส่วนให้ถูก และวันที่ 8 มิ.ย.ตนจะแถลงเรื่องงบประมาณ
นายกฯ กล่าวว่า เรายังจะขัดแย้งกันทำไม ตนไม่ได้ต้องการคะแนนเสียง ใครจะรักหรือเกลียดก็ทำให้หมด ไม่ใช่ว่ายิ่งเกลียดยิ่งไม่ให้ แต่ยิ่งเกลียดยิ่งต้องให้ เพราะเขาไม่เข้าใจ เพราะเขาไม่เคยได้ เพราะบิดเบือนกันจนเพี้ยนไปหมด ทำอะไรก็กลัวไปหมด ทำอะไรก็ไม่กล้า ทำให้ความเท่าเทียมกฎหมายไม่มี ทำให้มีคนได้ประโยชน์กับเสียประโยชน์ การค้าขายมีผิดกฎหมาย ถูกกฎหมาย คนถูกกฎหมายก็ไม่มีโอกาสไปค้าขาย
นายกฯ กล่าวว่า ตนพูดคนเดียวก็เบื่อเหมือนกัน พูดมา 3 ปีแล้วทุกเรื่อง แต่ตนศึกษาทำความเข้าใจไม่ใช่ไม่รู้เรื่องเลยเพราะจะทำให้สั่งงาน กำหนดนโยบาย และประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ได้ เพราะจะต้องมีการถกแถลงมากมายกันใน ครม.ว่าควรจะทำหรือไม่ทำ ไม่ใช่ว่าพวกนี้พวกนั้น เพราะวันนี้ไม่มีพวก เพราะ ครม.ต้องทำทุกพวกเพราะเราทำเพื่อประชาชน
นายกฯ กล่าวว่า อย่าไปกลัวยุทธศาสตร์ชาติ เพราะไม่ได้บังคับใครและไม่ได้สืบทอดอำนาจ เพียงแต่สืบทอดอำนาจของประชาชนให้มีคนมาทำงานให้ท่านให้ได้ และไม่ได้มีอะไรที่พิสดาร แต่ไม่ทำกันเองเท่านั้น เพราะฉะนั้นคนที่ต่อต้านคือคนที่กลัวว่าจะทำอย่างเดิมไม่ได้ แล้วท่านก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี ปัญหาประเทศไทยมีพันกว่าเรื่อง ตนเข้ามา 3 ปีเห็นปัญหาเป็นพันเป็นร้อยเรื่อง แล้วที่ผ่านมาไม่เห็นกันหรือ แล้วได้ทำอะไรไปบ้าง นั่นคือยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศคือทำใหม่คิดใหม่ โครงการใหม่ นี่คือการปฏิรูป ไม่เช่นนั้นก็พูดไปทำไป พูดไปหาเสียงไป ตนไม่ได้บอกว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง เพราะอย่างไรก็ต้องมีเลือกตั้ง แล้วจะเลือกใครเข้ามาก็เลือก ใครจะมาสมัครบ้าง มีหรือไม่คงต้องมี อย่างน้อยก็มีเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ.ก็ขอให้ทำให้ดีทั้งหมด แล้วจะเลือกใครมาก็แล้วแต่
จากนั้นนายกฯ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการด้านการเกษตรและกระบวนการจัดการและควบคุมคุณภาพผลไม้ส่งออก และการประมูลผลไม้แปลงใหญ่