นายกรัฐมนตรีให้โอวาทเกษตรกร ชูไทยศูนย์กลางเชื่อมโยงอาเซียน รับต้องเปลี่ยนกติกาเพื่อให้โครงสร้างเกิด ถามวันนี้เงียบๆ ไม่ชอบกันหรือ บอกยังหาคนมาแทน รมว.เกษตรฯ ไม่ได้ มีแต่บางพวกที่อยากเป็น ยันไม่ขวางเลือกตั้ง เดินตามโรดแมป อ้างชาวบ้านไม่เห็นผลงานรัฐเพราะมัวมองแต่รายได้ตัวเอง ย้ำ 4 คำถามเพื่อการเรียนรู้ ไม่ได้นำไปสู่อะไรทั้งสิ้น
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวให้โอวาทเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2560 ถึงการบริหารงานของรัฐบาลว่า วันนี้ตนต้องพูดเร็วเพราะมันมีหลายเรื่อง พูดเยอะพูดทุกเรื่อง คนก็มองว่าจะเก่งอะไรหนักหนา ไม่ได้เก่งหรอกอ่านหนังสือเอา อ่านรายงาน ติดตามและฟังจากพวกท่าน ฟังคนนั้น คนนี้ด่ามาบ้าง และมาประมวลของตนเอง เพราะเป็นทหารเก่ามันต้องฟังให้สำเร็จ ต้องทำให้ได้จึงต้องจี้กันทุกอัน ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเล็กๆ ถึงจะมองว่าเล็กกว่าประเทศอื่น แต่ก็ไม่ใช่ประเทศเล็กในอาเซียน เราเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงทั้งหมด ทั้งยุทธศาสตร์ ทั้งท่องเที่ยว ระบบการขนส่ง ถ้าไม่มีเรา ก็ต่อไปประเทศอื่นไม่ได้ ทุกวันนี้ประเทศอื่นเขาก็ทำกัน ทั้งรถไฟความเร็วสูง ทั้งสนามบิน ท่าเรือ ซึ่งเราก็ทำอยู่ ไปในหลายประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าเราไม่คิดแบบนี้ ก็หากินแบบเดิมๆ มาตลอด แต่ถ้าต่อต้านก็ไปกันไม่ได้อีก
“หลายอย่างต้องเปลี่ยนกติกาเพื่อให้มันเกิดขึ้นในช่วงนี้ให้ได้ แต่เราต้องดูเรื่องผลกระทบ เพื่อให้ประเทศชาติได้ประโยชน์ ก็ต้องมีผลกระทบกันบ้าง ในส่วนนั้นต้องดูเรื่องเยียวยากันไป ตรงนี้อยู่ในเรื่องสิทธิมนุษยชนการประกอบการธุรกิจ ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องสิทธิมนุษยชนเรื่องการแสดงความคิดเห็นจำกัดเสรีภาพ ถ้าไม่ผิดกฎหมายไม่ได้ห้ามเลย แต่วันนี้เป็นอย่างนั้นกันหมด หรือใครจะชอบแบบนั้น การจราจรติดขัด ประชาชนเดือดร้อนใช่หรือไม่ จะได้ปล่อย วันนี้เงียบๆ ไม่ชอบกันหรือมันจะได้คึกคัก หรือว่ามันไม่คึกคัก ไปไหนมาไหนได้สะดวก แค่รถติดก็แย่พออยู่แล้ว แต่ยังมีการชุมนุมประท้วง เยอะเยะไปหมด ก็ทำอะไรกันไม่ได้ ล้อมทำเนียบกันอยู่อย่างนี้ จะเอาอีกหรือ ผมไม่รู้ ก็อยู่ที่พวกท่าน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่มา มาแต่รัฐมนตรีช่วย เพราะว่าท่านรัฐมนตรีไม่อยู่ไปขายของ ท่านเดินทางตลอด คนก็บอกว่ารัฐมนตรีเกษตรไม่มีผลงาน ถามว่ามีผลงานหรือไม่ ต่างจากของเดิมมากหรือไม่ ต้องปรับรัฐมนตรีเกษตรไหม หาคนจะเป็นยังไม่ได้เลย คนทั่วไปให้เป็นรัฐมนตรี ให้เป็นนายกฯ ยังไม่อยากเป็นเลย มีแต่คนบางพวกอยากเป็น ก็อยากเป็นอยู่นั้น ก็เป็นไปสิ ถ้าท่านเลือกเขามา เขาก็เป็น แต่ท่านไม่เลือกเขา ก็ไม่เป็นแค่นั้นเอง และถึงเวลาก็ไปเลือกกันเอาเอง ตนก็ต้องไปเลือกเขาด้วยอยู่ดี แต่ก็ยังไม่รู้จะเลือกใครเหมือนกัน ดูตัวอยู่ หาตัวอยู่
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้เรากำลังแก้ให้มีกฎหมายเรื่องการบูรณาการระดับพื้นที่ โดยงบประมาณที่ขอขึ้นมาจากทุกกระทรวงต้องเชื่อมต่อกันให้ได้ จะทำถนนก็ต้องสร้างให้เชื่อมกัน จะทำการเกษตรต้องเชื่อมกับพาณิชย์ จะทำการตลาดยังไง ต้องทำให้มาร่วมกัน งบประมาณตรงกัน แต่อาจจะทำไม่ได้ทั้งหมด เพราะมันมีอัตลักษณ์ เคยทำอย่างเดิมได้มันเปลี่ยนยาก ความคิดคนเปลี่ยนยาก สังคมเปลี่ยนยาก ตนไม่ได้ต้องการเปลี่ยนทั้งหมด แต่ต้องการหาหลักคิดสักอัน และคิดว่าจะเดินหน้าอนาคตอย่างไร อันนี้คือสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วน ส่วนปัญหาวางไว้ข้างๆ แต่ก็แก้ไปด้วย มันต้องทำทั้งสองอย่าง ไม่อย่างนั้นจะเดินหน้าประเทศไปไม่ได้ ไปสู่ประชาธิปไตยก็ลำบาก ตนต้องการคิดอย่างนี้
“แต่วันนี้มีหลายคนหลายพวกพยายามจะตีทั้งหมด เอามาพันกันให้หมด แล้วไปเลือกตั้งอย่างเดียว ผมไม่ได้ไปขัดขวางเรื่องนั้นเลย ก็เดินไปสิ กติกาก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตนไม่เคยไปก้าวก่ายตรงนี้ หน้าที่ใครหน้าที่มัน ผมมีหน้าที่ทำประเทศวันนี้ไปสู่อนาคต แก้ปัญหาอดีตและส่งต่อให้วันหน้า ใครที่เข้ามาก็แก้ไป เว้นแต่มีวิธีแก้ที่ดีอย่างอื่น จะมีอีกไหม ผมว่าไม่มีแล้ว คิดมาละเอียดแล้ว แต่จะทำได้หรือเปล่าก็ต้องช่วยกัน” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ความมั่นคงคือประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพ ถึงแม้จะเป็นรัฐบาลที่มาแบบนี้ แต่เมื่อสงบเรียบร้อยดี ทุกอย่างก็สามารถเดินหน้าได้ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นประชาธิปไตย อย่างไรมันก็ต้องเป็น และต้องเป็นไปตามโรดแมป ถามว่าระหว่างนี้ทำไมเราไม่ร่วมมือกันทำให้เกิดความสงบเรียบร้อย มีเสรีภาพ เพราะเสถียรภาพทำให้บ้านเมืองเกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่มีการประท้วง ไม่มีการใช้ความรุนแรงระหว่างกัน รัฐบาลชุดนี้พยายามทำทุกอย่าง จะเห็นผลงานปรากฏออกมาแต่ทุกคนอาจจะมองไม่เห็น เพราะมัวแต่มองเรื่องของตัวเองว่าทำไมถึงจะมีรายได้มากขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราต้องมองส่วนรวมและสังคมที่อยู่รอบตัวด้วย ถ้าวันนี้ยังไม่สงบเรียบร้อยต่างชาติก็จะยังไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อมั่น ผลที่ตามมาคือจะไม่เกิดการลงทุนไม่มีการซื้อข้าวจากไทย ถ้าเรายังปล่อยให้มีการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานที่ผิดกฎหมาย การใช้แรงงานเด็กแรงงานผู้หญิงที่ไม่ถูกต้อง ก็จะเป็นอันตรายมากที่สุด ต่อให้เราผลิตข้าวให้ตายก็จะไม่มีคนซื้อ รัฐบาลจึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแรงงาน ปัญหาค้ามนุษย์ การสร้างความเชื่อมั่นในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเกษตรกร ถ้าเราไม่ทำอย่างที่พูด ทุกอย่างก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องอดทนร่วมมือเดินหน้าไปด้วยกัน ทุกคนจะต้องรวมพลังกันให้ได้ แต่ต้องไม่มากเกินไปเหมือนเช่นปัจจุบัน ที่ไม่รู้ว่ามีกี่กลุ่ม มีประธานกี่คน ถ้าสามารถมารวมกันและพูดกันทีเดียวก็จะมีกลไกในการแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นรัฐ เอกชนหรือประชารัฐ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่ได้ฝาก 4 คำถามถึงประชาชนว่า ที่ได้ตั้งคำถามไปนั้นก็เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ ว่าจะทำอย่างไร แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เพื่อจะนำไปสู่อะไรทั้งสิ้น ยังไงก็มีการเลือกตั้งเพราะกฎหมายเขียนไว้อยู่แล้ว แต่จะมีอย่างไรก็เรื่องของท่าน เพราะท่านเป็นคนเลือกรัฐบาล ไม่ได้เกี่ยวกับตนเลย