ศาลปค.ตั้งองค์คณะพิเศษ คดี "บุญทรง-ภูมิ" ฟ้องนายกฯขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ชดใช้เงินทุจริตจำนำข้าว พร้อมไต่สวนเพื่อพิจารณาคำขอระงับการจ่ายชดใช้ไว้ก่อน ด้าน "บุญทรง" ระบุ ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาแล้ว รอลุ้นคำสั่งระงับอายัด อ้างเดือดร้อน เอาคืนยาก
วันนี้ (28ธ.ค.) ศาลปกครองกลางได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวมสามคน กรณีขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ 453/2559 ลงวันที่ 19 ก.ย 59 ที่ให้นายบุญทรงชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่รมว.พาณิชย์ ได้อาศัยโอกาสในการปฏิบัติหน้าที่แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ โดยชอบด้วยกฎหมาย ทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และคดีที่นายภูมิ สาระผล ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวมสามคน เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ที่ 240/2558 ลงวันที่3 เม.ย 58 แต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดและคำสั่งที่ 453/2559 ลงวันที่ 19 ก.ย. 59 ให้นายภูมิชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุขณะดำรงตำแหน่งรมช.พาณิชย์กระทำการผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ โดยการไต่สวนศาลได้รวมคำฟ้องทั้งสองคดีมาไต่สวนพร้อมกัน ซึ่งนายบุญทรงและนายภูมิเดินทางมาให้ถ้อยคำด้วยตนเอง และขณะนั่งรอเข้าไต่สวนบุคคลทั้งสองไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งตัวแทนมาเข้าร่วมชี้แจงด้วย
สำหรับการไต่สวนดังกล่าวศาลจะได้นำข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายไปพิจารณาประกอบการวินิจฉัยว่า จะมีคำสั่งกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาคือสั่งระงับคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตามที่ผู้ร้องทั้งสองได้ยื่นขอหรือไม่ อย่างไรก็ตามการพิจารณาทั้งสองคดีศาลได้มีคำสั่งตั้งองค์คณะพิเศษโดยจะมีอธิบดีศาลปกครองชั้นต้นคือนายวุฒิ มีช่วย ทำหน้าที่หัวหน้าองค์คณะและมีตุลาการประกอบเป็นองค์คณะเพิ่มจากปกติที่มี 4 คน เป็น 7 คน
ด้านนายบุญทรง กล่าวภายหลังการไต่สวนนานเกือบสองชั่วโมงว่า ศาลได้นัดไต่สวนในประเด็นที่ตนและนายภูมิยื่นคำร้องขอให้ทุเลาการบังคับใช้คำสั่งกระทรวงพานิชย์ที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา เนื่องจากเห็นว่าในระหว่างที่ศาลยังไม่มีคำสั่งเรื่องการเพิกถอนคำสั่งกระทรวงพานิชย์ที่ศาลได้รับคำฟ้องไว้พิจารณาวินิจฉัยก่อนหน้านี้แล้วหากปล่อยให้มีการยึดทรัพย์ไปแล้วจะยากต่อการเยียวยา เพราะจะเกิดความเดือดร้อนถ้ามีการนำทรัพย์สินไปขายทอดตลาดแล้วนำเงินไปใช้หนี้ตามที่กระทรวงพานิชย์ระบุก็จะยากต่อการเอาคืน อย่างไรก็ตามกระทรวงพานิชย์ก็ได้ใช้สิทธิทางกฎหมายคัดค้านคำร้องขอทุเลาคดีของตน ซึ่งตามขั้นตอนการอายัดทรัพย์กระทรวงพานิชย์ก็ได้ชี้แจงว่าจะดำเนินการภายใน30-45วัน หากยังไม่ชดใช้ก็จะส่งเรื่องให้กรมบังคับคดีดำเนินการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการและเลยกรอบเวลา 45 วันแล้วแต่ก็ยังไม่มีหนังสือแจ้งอะไรมาที่ตน
และการไต่สวนครั้งนี้ศาลก็ยังไม่ได้แจ้งว่าจะมีคำสั่งเมื่อใด
สำหรับการต่อสู้ในทางกฎหมายในกรณีที่กระทรวงพานิชย์ดำเนินการตามคำสั่งคสช.ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มาตรา 44 นั้น นายบุญทรง กล่าวว่า คำสั่งคสช.ดังกล่าวให้อำนาจกรมบังคับคดีดำเนินการแทนกระทรวงพานิชย์หมายความการดำเนินการของกรมบังคับคดีได้รับการคุ้มครองตามมาตรา 44 แต่ไม่ได้หมายความว่า เมื่อยึดอายัดทรัพย์ไปแล้วจะดำเนินการได้ทันทีหากศาลมีคำสั่งให้ทุเลาก็ต้องระงับการอายัดทรัพย์ไว้ก่อน