“ประยุทธ์” เผยรอเคลียร์ข้อ กม.-สัญญา ซื้อรถเมล์เอ็นจีวี เร่งดำเนินการหวั่นกระทบการบริการ ปชช. ระบุรอฟัง ตร.แถลงมือแฮกข้อมูลรัฐ ย้อนล้วงข้อมูลแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ ถ้าไม่มี กม.นี้จะจัดการยังไง ขอบคุณโพลไว้ใจ รบ. ชี้เพราะเข้าใจการทำงานมากขึ้น ลั่นปีใหม่จะทำตัวดีใจเย็นมากขึ้น ขอบคุณสื่อไม่ตั้งฉายา ขออย่าจับตาตนออกกำลังแบบดารา รับแค่นำออกนำขบวน
วันนี้ (26 ธ.ค.) เวลา 15.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีปัญหาการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก ว่ายังไม่ได้รับรายงานที่วันนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และกรมศุลกากรหารือ จนกว่าจะเกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ ก็เป็นไปตามกฎหมาย สัญญาคือสัญญา กฎหมายคือกฎหมาย ตอนนี้มีสองอย่างนี้ ถ้าเคลียร์ทั้งสองอย่างได้ชัดเจน ถึงจะปฏิบัติก็ไม่ควรจะทำให้มันผิด ต้องเข้าสู่กลไกตรวจสอบ ตนไม่ได้เร่งร้อนเพื่อจะนั่งรถเมล์ มันคนละเรื่องกัน
เมื่อถามว่า หากแก้ไขไม่ได้จะล้มเลิกโครงการหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คณะกรรมการจะเสนอมา ว่าควรจะต้องเป็นอย่างไร และคงต้องจัดทำใหม่อยู่แล้ว ถ้ามันไม่ได้ตนต้องการให้ดำเนินการเร็ว ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาเรื่องการพัฒนา ขสมก. รวมถึงเส้นทางการบริการประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาเก่าและยังมาพันกับเรื่องนี้อีก ไม่รู้เป็นอย่างไร พอเดินหน้าก็ติดกลับวนอยู่อย่างนี้ ฉะนั้นตนจึงบอกว่าปี 60 จะเป็นปีแห่งการแก้ปัญหาให้ได้ทั้งหมด และทำให้เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นจะเริ่มต้นอะไรไม่ได้เลย แม้ได้มาก็ไม่เป็นกอบเป็นกำ อยากได้กันหรือไม่ อะไรที่จะทำให้ประเทศมีรายได้สูงขึ้น และขอย้ำอีกครั้งว่าตนให้ความสำคัญกับประชาชนทุกระดับเสมอ การพูดถึงไทยแลนด์ 4.0 ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรู้สึกไปถึงความทันสมัย และตัวเองต้องรู้ว่าถึงจุดไหนด้วย และเป็นกรอบใหญ่เอื้อประโยชน์สู่ข้างล่าง อย่าคิดว่าทิ้งคนมีรายได้น้อย ปี 60 ยังเน้นเรื่องพวกนี้ หลายอย่างที่เสนอมาก็จะดูว่าทำได้หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการเคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ ที่มีการแฮกข้อมูลส่วนตัวของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประกาศ “เปิดบ้านลุงตู่ day2” ว่า กฎหมายมีอยู่แล้ว และขณะนี้ก็มีการจับกุมดำเนินคดีหลายราย ต้องพิจารณาดูว่าสิ่งที่ทำไปนั้นสมควรหรือไม่ การแสดงความคิดเห็นสามารถทำได้อยู่แล้ว แต่การละเมิดคนอื่นด้วยการล้วงข้อมูลหน่วยงานราชการมีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะการทำลักษณะนี้ผิดกฎหมายทุกประเทศ และทุกประเทศก็ไม่ยอม
“รอฟังตำรวจเขาแถลงซึ่งมีข้อมูลพอสมควร มีทั้งเจตนาและไม่เจตนา ต้องดูตามขั้นตอนและกฎหมายตัวนี้ ซึ่งต้องให้คณะกรรมการพิจารณาอีกทีว่ามีความผิดหรือไม่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550 ว่าอย่างไร แต่วันนี้ทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น มีคณะกรรมการพิจารณาถึง 9 คน มีผู้แทนจากภายนอกด้วย เดิมฉบับปี 2550 เจ้าหน้าที่รัฐจะเป็นผู้พิจารณา ต้องเข้าใจว่าถ้าเราไม่มีกฎหมายอะไรเลย หรือไม่เขียนให้เกิดความชัดเจน ถ้าเขาทำแบบนี้จะทำอย่างไรต่อไป เข้ามาล้วงข้อมูลส่วนตัวแบบนี้มันได้หรือ ขอให้มองตรงนี้ เพราะไม่ควรทำ อย่างไรก็ต้องผิด แต่จะผิดแค่ไหนก็ว่าไปตามกฎหมาย ให้คณะกรรมการว่ามา ซึ่งเรื่องดังกล่าวกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ชี้แจงไปแล้ว 13 ข้อและไม่มีซิงเกิลเกตเวย์” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.) ว่า เป็นการประชุมในวาระปกติ ไม่มีวาระอะไรเป็นพิเศษ หรือการให้ของขวัญให้แก่ประชาชนในช่วงปีใหม่ อีกทั้งกว่าจะถึงปีใหม่ยังเหลือเวลาอีกหลายวัน ทั้งนี้ ของขวัญที่รัฐบาลให้แก่ประชาชนมีมากแล้ว ให้มาตั้งพวงเบ้อเร่อ จะเอาอะไรกันเยอะนัก แล้วพอให้เยอะก็บอกว่าใจดี ไม่มีความพอดี ให้ก็ว่าไม่ให้ก็ว่า ทั้งนี้คงไม่มีของขวัญอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากได้ออกมาตรการไว้ล่วงหน้าจากการประชุม 2-3 ครั้งที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่พึงพอใจการทำงานของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารมากกว่าการเลือกตั้งว่า เป็นเรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจ ขอขอบคุณที่เข้าใจว่ารัฐบาลตั้งใจทำงานอย่างไร แต่แน่นอนว่าปัญหาอุปสรรคก็ยังมีอยู่บ้าง ข้อสำคัญเรามีระบอบการปกครองประชาธิปไตยในอนาคตใช่หรือไม่ การทำวันนี้ก็เพื่อไปสู่จุดดังกล่าว ขอให้ช่วยตนตรงนี้ก่อน ผลสำรวจวันนี้แสดงว่าทุกคนเริ่มเข้าใจมากขึ้น เพราะถ้าเราไม่เริ่มตั้งแต่วันนี้มันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงอะไรไม่มีราบรื่นอยู่แล้ว ก็ต้องเจอกับอุปสรรค ซึ่งตนก็อดทนให้เต็มที่ อยู่ที่พวกเราทุกคน
“ขอบคุณสื่อทุกคนด้วยที่ปีนี้ไม่ตั้งฉายาให้รัฐบาล ต้องขอบคุณ ไม่รู้จะตั้งไปทำไม ตั้งไปก็เป็นเรื่องตลกกันไปเปล่าๆ อย่าเลย ปีหน้าผมจะทำตัวให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ใจเย็นขึ้นเยอะๆ แค่นั้นแหละ ก็ขอให้ทุกคนใจเย็นกับผมบ้าง อะไรต่างๆ ก็ตามที่มีข้อมูลเข้ามา ขอความกรุณาตรวจสอบกันสักหน่อยว่าใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง ถามผมก็ได้ ผมจะได้ชี้แจงได้ ถ้าไปฟังข้อมูลที่ไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่ เสร็จแล้วก็จะเป็นการสร้างความเข้าใจผิดไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นคำว่าซิงเกิลเกตเวย์ มันก็ไม่ใช่ แล้วก็ไม่เห็นมีใครแก้ให้เลยว่ามันไม่ใช่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า ปีหน้าจะยังคงออกกำลังกายในทุกวันพุธหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าไม่ติดอะไรก็ทำ แต่อย่ามาอะไรกับเรื่องการแสดงของตนเลย บางวันก็อาจจะเล่นน้อยบ้างมากบ้าง วันไหนไม่ค่อยสบายก็จะลดลง แค่นั้นเอง อย่ามาตามเหมือนตนเป็นดารา เล่นกีฬา มันไม่ใช่ ตนต้องการเพียงแค่จะนำลูกน้องให้ออกกำลังกาย เท่าที่ทำมาเขาก็ดีใจที่ได้ออกกำลังกาย โดยออกกำลังแค่วันพุธคงไม่ได้อะไรมากนัก เพียงแต่เขาก็ไปออกต่อในวันอื่นๆ ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ทุกอย่างมันต้องมีการเริ่มต้น ต้องมีการนำ ตนเป็นผู้นำก็ต้องนำเขาก่อน เช่นเดียวกับที่ตนนำทหาร ตนก็ทำอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก ทั้งการนำออกกำลังกาย การฝึกทหาร ก็ใช้วิธีการแบบนี้ตลอดก็เร็วขึ้นหน่อย ถ้าได้นำเป็นตัวอย่าง หรือร่วมทำไปพร้อมกับเขา ถือเป็นความร่วมมือกัน ไม่ใช่เอาแต่สั่งอย่างเดียว ตัวเองต้องทำได้บ้างแม้ไม่ได้เก่งมากนัก สำหรับกีฬาที่เล่นผ่านๆ มา ทั้ง 5 ประเภทก็ชอบทุกอย่าง ซึ่งตอนเด็กก็เล่นได้ทั้งหมด แต่เมื่ออายุมากขึ้นก็ต้องระวังบ้าง รู้ว่าหลายคนเป็นห่วง เพราะล้มลุกคลุกคลาน ใจมันถึงลูกบอลแล้วแต่ร่างกาย และขายังไปไม่ถึง เพราะช้ากว่าเดิม เนื่องจากร่างกายมาใช้ในการบริหารเสียเยอะ ชิ้นส่วนความเคลื่อนไหวมันขาดหายไปเสียมาก อายุก็ 60 กว่าปีแล้ว จะเอาอะไรอีก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่คงไม่ให้สัมภาษณ์อะไรกับสื่อมวลชน เพราะพิเศษอยู่ทุกวันแล้ว “ที่พิเศษก็คือมีหัวใจให้กับทุกคนเสมอ ให้หมดจริงๆ แล้วหัวใจ”