กกต. เปิดอบรมหลักสูตร “สืบสวนและไต่สวนฯ” เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมเร่งเพิ่มเครือข่ายการข่าว สร้างความรวดเร็วในการสืบสวน “บุญส่ง” ปัดแสดงความเห็นร่าง พ.ร.ป. พรรค ชี้ เป็นเรื่องพรรคการเมือง
นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวน กล่าวเปิดการอบรมหลักสูตร “สืบสวนและไต่สวนระดับกลางรุ่นที่ 1” ว่า วัตถุประสงค์ของการจัดการอบรมนี้ เพื่อเพิ่มสมรรถนะของพนักงานสืบสวน สอบสวน และนิติกร ทั้งจากส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ที่ปฏิบัติงานการสืบสวน สอบสวน และการดำเนินคดีเลือกตั้งในศาล โดยเนื้อหาการอบรมจะประกอบด้วยการสืบสวนเส้นทางการเงิน การสืบสวนจากร่องรอยทางเทคโนโลยี การเฝ้าจุด สะกดรอย การสืบสวนปากคำโดยใช้เทคนิคทางจิตวิทยา การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เทคนิคการบริหารความเสี่ยง และการเจรจาต่อรอง เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจ ป้องกันปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นโดยมีผู้เข้าอบรม ทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 100 คน ระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. 59 - 7 มี.ค. 60 ซึ่งการอบรมจะมีทั้งหมดจำนวน 3 รุ่น และจะอบรมให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน พ.ศ. 2560
อย่างไรก็ตาม บทบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ จะมีส่วนเสริมให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เมื่อกฎหมายให้อำนาจแล้ว กกต. ก็ต้องเพิ่มสมรรถนะการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้สอดคล้องกับภารกิจ โดยภารกิจหลักคือการควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรม ทำอย่างไรจะดูแลการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรมได้
สำหรับการอบรมครั้งนี้ ใช้เวลา 3 เดือน อยากให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค มีการทำงานที่เชื่อมโยงกัน รวมทั้งเตรียมจัดโครงการสร้างเครือข่ายการข่าวร่วมกับหน่วยงานทีเกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล สำนักทะเบียน กรมการขนส่งทางบก กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น เพื่อสร้างภาคีเครือข่ายในการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง และทำอย่างไรจะได้การข่าวที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้การข่าวของสำนักงาน กกต. มีอยู่ประมาณ 5,000 - 6,000 คนแล้ว
นายบุญส่ง ยังปฏิเสธให้ความเห็นต่อร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมืองของคณะกรรมการยกร่างฯขึ้นว่า ไม่ใช่หน้าที่ของตน เป็นเรื่องของพรรคการเมือง หากแสดงความคิดเห็นไปอาจดูไม่เหมาะสม