ประธานสภาพัฒนาการเมือง เห็นคำสั่ง ม.44 ยุบกรรมการองค์กรแล้ว ซัดยุติการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง ชี้ถ้ามีคนสานต่อก็ดี แต่ถ้าไม่มีทุกอย่างเท่ากับศูนย์ เสียหายใหญ่หลวง เชื่อคงถ่ายเทข้าราชการไปอยู่ส่วนอื่นก่อนยุบสำนักงานทิ้ง
วันนี้ (14 ธ.ค.) นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง กล่าวถึงกรณีที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 71/2559 เรื่องการยกเลิกกฎหมายว่าด้วยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยสภาพัฒนาการเมือง และกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ว่า เห็นคำสั่งดังกล่าวแล้ว การยกเลิกกฎหมายตามคำสั่งนี้มีผลให้ตำแหน่งกรรมการองค์กรสิ้นสุดลง แต่ในส่วนของสำนักงานและกองทุนสภาพัฒนาการเมืองยังคงอยู่ การที่ คสช.ใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งเช่นนี้เป็นการยุติการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้จะอ้างว่าเป็นการยุบองค์กร เพื่อรอความชัดเจนของแผนยุทธศาสตร์ก็ตาม หากในอนาคตจะมีองค์กรใหม่ที่มาทำหน้าที่แทนสภาพัฒนาการเมืองก็ถือเป็นเรื่องดีที่จะสานต่อแผนพัฒนาการเมืองที่ได้วางแผนไว้อย่างครบถ้วน แต่ถ้าในทางกลับกัน ไม่มีองค์กรใดมาทำหน้าที่นี้ ก็ถือว่าทุกอย่างที่เราทำมาเป็นศูนย์ ทำให้การพัฒนาการเมืองชะงัก จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
“คสช.จะออกคำสั่งยุบทั้งหมดเลยก็ได้ แต่ก็คงเห็นว่าหากยุบสำนักงานด้วยจะเกิดปัญหา เพราะเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเป็นข้าราชการประจำ ที่ต้องรับเงินเดือน หากยุบสำนักงานไปจะสร้างความเดือดร้อนแก่คนเหล่านี้ แต่ส่วนพวกสมาชิกอย่างผมนั้นมีงานประจำอยู่แล้วจึงไม่เดือดร้อน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า คสช.คงรอถ่ายเทเจ้าหน้าที่ไปอยู่ในส่วนต่างๆ ก่อนที่จะยุบสำนักงานทิ้งด้วย” นายธีรภัทร์กล่าว