โฆษกรัฐบาลเผย “ประยุทธ์” สั่งติดตามสถานการณ์อุทุกภัยภาคใต้ ให้หน่วยงานบูรณาการร่วมกัน แก้ไขให้ทุเลา แจงระดมช่วยกันเต็มที่ มท.กำหนดแนวทางปฏิบัติชัดเจน ขอ ปชช.พื้นที่เสี่ยงติดตามประกาศใกล้ชิค เรือเล็กงดออกจากฝั่ง
วันนี้ (4 ธ.ค.) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีอุทุกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในขณะนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บูรณาการร่วมกัน เช่น ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตของกระทรวงมหาดไทย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 และจังหวัดที่ประสบภัย เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“ท่านนายกฯ ระบุว่า ภัยธรรมชาติเป็นสิ่งที่มนุษย์ควบคุมไม่ได้ แต่เมื่อรู้ว่าจะเกิดก็จำเป็นต้องป้องกันเพื่อลดความเสียหาย โดยแจ้งข่าวสารให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องแก้ไขปัญหาให้ทุเลาเบาบางลง ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวป้องกันเหตุจมน้ำ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุด เช่น จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ด้านสาธารณภัยพร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น”
พล.ท.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ระดมสรรพกำลังลงไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายบรรเทาสาธารณภัย ผู้นำท้องถิ่น และทหารตำรวจ เพื่อให้ผู้ประสบภัยเกิดความอุ่นใจและดำเนินชีวิตอย่างเป็นปกติมากที่สุด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายเพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
“มท.ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน ทั้งการสำรวจพื้นที่ประสบภัย วิธีช่วยเหลือที่เหมาะสมเพื่อป้องกันดินโคลนถล่มบนพื้นที่ราบเชิงเขา หรือจัดเตรียมเรือและระบายน้ำออกจากพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ มีผู้บัญชาการเหตุการณ์และผู้รับผิดชอบแต่ละพื้นที่ เปิดช่องทางแจ้งข่าวสารให้ถึงประชาชน และแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่มห่ม ฯลฯ แก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน โดยให้ทุกพื้นที่สรุปรายงานไปยังส่วนกลางเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติได้ถูกต้องต่อไป”
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าติดตามประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ ส่วนผู้ที่ประสบภัยให้ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและสาขาในพื้นที่ หรือโทร.สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง