รองนายกรัฐมนตรี แนะวิธีปฏิบัติตัวหลังมีประกาศ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ให้ใช้ชีวิตตามปกติ รอฟังประกาศของทางราชการ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการดำเนินการของภาคส่วนต่างๆ หลังมีการเข้าเฝ้าฯ ในวันนี้ว่า ทุกภาคส่วนควรอยู่ในความสงบ หากต้องไปถวายบังคมพระบรมศพสามารถไปได้ตามปกติ ส่วนการประดับพระบรมฉายาลักษณ์ในพื้นที่ต่างๆ ทั้งบริเวณถนนราชดำเนิน ส่วนราชการ หรือห้างร้าน ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การไว้ทุกข์ก็ยังเหมือนเดิมเช่นกัน เช่นเดียวกับเมื่อ 70 ปีที่แล้วที่ในหลวงรัชกาลที่ ๘ เสด็จสวรรคต ค่ำวันเดียวกันก็มีการอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ขึ้นครองราชย์ ก็เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทันที วันรุ่งขึ้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ประชาชนก็ยังแต่งดำตามปกติ พระบรมฉายาลักษณ์ก็ยังอยู่ตามปกติ และในสมัยนี้ก็ได้มีพระราชบัณฑูรให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความปกติ ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมพระองค์ในทุกเรื่อง
ส่วนหากจะประดับพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ในส่วนราชการสามารถทำได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “แค่เลือกพระบรมฉายาลักษณ์ก็เลือกไม่ถูกแล้วว่าจะใช้พระราชอิริยาบถแบบไหน ดังนั้นขอให้อยู่ตามปกติ ทุกภาคส่วนกรุณารอ จากนี้รัฐบาลจะต้องประชุมหารือเพื่อกำหนดวิธีดำเนินการ และเมื่อถึงเวลาอันสมควรจะมีการประกาศให้ทราบ อย่าไปเชื่อข่าวลืออะไรที่ออกมา สื่อมวลชน โทรทัศน์ระวังให้ดีเวลาออกข่าวในพระราชสำนัก อย่าเผลอออกพระนามว่าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชก็แล้วกัน”
ส่วนการเข้าเฝ้าฯ ในวันนี้จะประกอบด้วยใครบ้างนั้น นายวิษณุกล่าวว่า จะมีนายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนฝ่ายบริหาร ประธาน สนช.ตัวแทนฝ่ายนิติบัญญัติ ประธานศาลฎีกา เป็นตัวแทนฝ่ายตุลาการ ส่วน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จะเข้าเฝ้าฯ ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งจะสิ้นสุดภาระรับผิดชอบ โดยการกราบบังคมทูลนั้นจะเป็นหน้าที่ของประธาน สนช.ในฐานะประธานรัฐสภา และประธานสภา จะออกประกาศให้ประชาชนทราบตามที่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าเข้าเฝ้าฯ คืนนี้ (1 ธ.ค.) และประกาศในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) คงพิลึก เพราะชาวบ้านกำลังรอฟังกันอยู่ และขอให้รำลึกไว้ว่าทั้งหมดคือการย้อนหลังไปถึงวันที่ 13 ต.ค.ทั้งสิ้น ตามหลักที่ถือกันว่าราชบัลลังก์จะไม่ว่างลง