หัวหน้าพรรคคนไทย ชมรัฐบาลอินเดียกล้าหาญยกเลิกแบงก์รุ่นเก่ากะทันหันหวังแก้โกง ปราบเงินนอกระบบ สกัดทุนก่อการร้าย บอกเสนอไปหลายรอบให้เปลี่ยนสีธนบัตรแต่รัฐไม่สนใจ แนะดูโมเดลแดนภารตะ ใครมาแลกเกินกว่ากำหนดต้องโชว์การเสียภาษีด้วย ถ้าไม่มีต้องยึดคืน เพื่อเช็กคนร่ำรวยผิดปกติได้ ถาม คสช.กล้าหรือไม่
วันนี้ (17 พ.ย.) นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกธนบัตร 500 รูปี และ 1,000 รูปี รุ่นเก่าอย่างกะทันหัน และเปิดให้ประชาชนแลกธนบัตรรุ่นใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ปราบปรามวงจรเงินนอกระบบ และสกัดกลุ่มทุนที่สนับสนุนการก่อการร้ายว่า ถือเป็นความกล้าหาญของรัฐบาลอินเดีย ซึ่งส่วนตัวเคยเสนอวิธีนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้วย เกี่ยวกับปริวรรคเงินตรา โดยการปรับแก้ไขกฎหมายให้เปลี่ยนสีธนบัตรทุกชนิดในประเทศไทย โดยเฉพาะธนบัตรใบละ 500 บาท และใบละ 1,000 บาท แต่ยังคงมูลค่าเดิมไว้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน เช่นเดียวกับที่ประเทศอินเดียกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าประเทศที่มีประชากรมากกว่าไทยหลายเท่าก็ยังสามารถทำได้ แม้จะความวุ่นวายอยู่บ้าง ก็เนื่องมาจากการประกาศอย่างกะทันหัน และวิธีบริหารจัดการให้ประชาชนแลกเปลี่ยนธนบัตรยังสับสนอยู่บ้าง
“การเปลี่ยนธนบัตรเพื่อขจัดเงินนอกระบบไม่ใช่เรื่องใหม่ และผมก็ได้เสนอมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ในการรับลูกไปดำเนินการ รวมไปถึงสื่อมวลชนก็ไม่ให้ความสำคัญในการขยายแนวคิดที่ว่านี้ด้วย” นายอุเทนกล่าว
นายอุเทนกล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยก็อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ใช้ความกล้าหาญ และอำนาจที่มีอยู่ในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง อย่าเป็นเพียงวาทกรรมสวยหรูไปวันๆ แต่กลับมีการทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกระดับชั้นอย่างในตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรศึกษาการดำเนินการของประเทศอินเดีย และนำแนวทางที่ตนได้เสนอไว้ไปประยุกต์ให้เกิดการปฏิบัติที่เหมาะสำหรับเมืองไทย ด้วยการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.เงินตรา ปี 2501 เพื่อให้เปลี่ยนสีธนบัตรทุกชนิดแต่ยังคงมูลค่าเดิมไว้ จากนั้นให้ผู้ที่ถือครองนำธนบัตรเดิมมาแลกเปลี่ยนภายในเวลาและจำนวนที่กำหนด หากมีผู้ใดมีและนำมาแลกเกินกว่าที่กำหนดไว้ต้องมีหลักฐานแสดงที่มาและหลักฐานการเสียภาษีของเงินนั้นๆ ด้วย หากแสดงที่มาไม่ได้ก็ต้องยึดเงินส่วนนั้นคืนรัฐ เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการตรวจสอบว่าใครร่ำรวยผิดปกติได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งเงินสีเทานอกระบบก็จะถูกดึงกลับเข้าสู่ระบบ เป็นจำนวนมหาศาล นำกลับมาเป็นงบประมาณสำหรับพัฒนาประเทศ
“การแก้ไขกฎหมายเงินตราจะเป็นเครื่องมือสำคัญของการปราบปรามการทุจริตและการหนีภาษีทั้งปวง ก็ขึ้นอยู่ว่า นายกฯ ประยุทธ์ และ คสช.กล้าหรือไม่ที่จะทำเรื่องนี้ในขณะที่ตัวเองมีทั้งกำลัง อำนาจ และกฎหมายในมืออย่างเบ็ดเสร็จ ตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างชาติอย่างถาวรเพื่อความมั่นคงของชาติ ของลูกหลานเรา เชื่อว่าทุกอย่างสามารถทำได้สำเร็จภายใต้รัฐบาลนี้ แต่หากทำไม่ได้ทั้งที่มีอำนาจขนาดนี้ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกปรามาสว่าเสียของ” นายอุเทนระบุ