ผู้จัดการรายวัน360- ทิสโก้ออกทริกเกอร์ฟันด์เปิดโอกาสลงทุนตลาดหุ้นอินเดีย ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการที่ 10.50 บาท/หน่วย ภายในเวลา 5 เดือน เพื่อเป็นเครื่องมือในการจับจังหวะการลงทุน รับกระแสรัฐบาลอินเดียออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนตลาดหุ้นเติบโต IPO วันนี้-16 ธ.ค. 59
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้จำกัด กล่าวว่า บลจ. ทิสโก้ยังคงมุ่งมั่นมองหาโอกาสในการจับจังหวะลงทุน โดยครั้งนี้เรามองโอกาสสร้างผลตอบแทนในตลาดหุ้นอินเดีย จากมาตรการของนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ของอินเดียในการทำ Demonetization หรือ การเรียกคืนเพื่อยกเลิกธนบัตร 500 และ 1,000 รูปี ซึ่งมีการคาดหมายว่าจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ ทำให้ตลาดหุ้นอินเดียมีการปรับฐานลงมา 9% จากระดับสูงสุด มาอยู่ในระดับที่สามารถเข้าลงทุนได้ บลจ. ทิสโก้ จึงออก “กองทุนเปิด ทิสโก้ อินเดีย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#1” ทริกเกอร์ฟันด์เพื่อลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย มีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 10.50 บาท/หน่วย ภายในเวลา 5 เดือน ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ แต่หากกองทุนไม่ถึงเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนด จะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการโดยที่เป้าหมายยังดำเนินต่อไป ซึ่งการกำหนดเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่ประมาณการหรือการรับประกันผลตอบแทนเมื่อเลิกกองทุนและเป็นเป้าหมายก่อนหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เสนอขายครั้งแรก (IPO) วันนี้-16 ธ.ค. 59
“ถึงแม้มาตรการยกเลิกการใช้ธนบัตร 500 และ 1,000 รูปี จะสร้างความโกลาหลจนทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงมา แต่เรามองว่านี่เป็นโอกาสลงทุน เนื่องจากมาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อขจัดการทุจริตและเงินผิดกฎหมาย ถึงแม้จะส่งผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศ แต่เรามองว่าจะกระทบแค่ระยะสั้นๆ แต่เราคาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ขณะที่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) จะมาเป็นตัวช่วยประคองเศรษฐกิจ และเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนมีความมั่นใจอีกครั้ง และส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นอินเดียสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง Valuation ของตลาดในปัจจุบันก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม เท่ากับค่าเฉลี่ย P/E ในอดีต” นายสาห์รัช กล่าว
ทั้งนี้ “กองทุนเปิด ทิสโก้ อินเดีย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#1”จะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares MSCI India ETF เป็นกองทุนหลัก กองทุนจึงอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม