รมว.ยุติธรรม เผยเกือบทุกประเทศรับปากดูแลเรื่องหมิ่นเบื้องสูงมาตรา 112 ให้ ทำพวกใช้โซเชียลฯ เป็นเครื่องมือลดลง แต่ยังต้องพยายามต่อไป
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการติดตามตัวผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112 ในต่างประเทศว่า ได้หารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว แนวคิดในการขอความร่วมมือกับต่างประเทศเพราะหากใช้การบังคับทางกฎหมายอาจทำไม่ได้เนื่องจากกฎหมายแต่ละประเทศต่างกัน จึงใช้วิธีการขอความร่วมมือซึ่งมี 2 กรณี คือ เราเอาตัวเขากลับมาก็จบ และการไม่นำตัวกลับ แต่ทำให้เขาหยุดเคลื่อนไหว
“การขอความร่วมมือกับประเทศเหล่านั้นเพื่อขอให้ส่งตัวคนทำผิดกลับมานั้น ที่ผ่านมาเราทำมาตลอด เป็น 10 ปีแล้วและจะทำต่อไป แต่สิ่งที่เราทำได้และยังมีโอกาสเป็นไปได้คือการทำให้เขาหยุดเคลื่อนไหว อย่างประเทศนิวซีแลนด์ก็ดำเนินการช่วยเหลือเราอยู่ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีขึ้น”
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า สำหรับสถานทูตก็พยายามหาวิธีและขอข้อมูลไปเพื่อเร่งจัดการเรื่องนี้เป็นการภายในเพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งทูตของไทยในหลายประเทศจะใช้แนวทางนี้เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่พยายามบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ เช่น การขอลี้ภัยในต่างประเทศเราก็พยายามให้ข้อมูลใหม่กับประเทศต้นทางอีกด้านหนึ่งเพื่อให้เขาพิจารณาเพิ่มเติมซึ่งถือเป็นเรื่องทางกฎหมาย และเน้นขอความร่วมมือเรื่องดังกล่าวไปด้วยอีกทางหนึ่ง และยืนยันว่ารัฐบาลพยายามขอตัวผู้กระทำผิด กลับมาแม้อาจเป็นเรื่องที่ยากเพราะเป็นเรื่องกฎหมายภายในประเทศที่ยากต่อการไปละเมิดอธิปไตย แต่รัฐบาลกำลังดูว่าใครที่ไปหาประโยชน์จากการลี้ภัยทั้งทางการเมืองและการไม่ได้รับความยุติธรรมในประเทศไทย ซึ่งเราก็พยายามสอบถามไปเพื่อทำข้อมูลทักท้วงไป แต่จะได้หรือไม่ได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีประเทศใดบ้างที่รับปากว่าจะดูแลเรื่องนี้ให้เรา พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า เกือบทุกประเทศให้ความร่วมมือทั้งนั้น พบว่านิ่งลงไปเยอะแล้ว เห็นได้จากสื่อโซเชียลมีเดียที่เขาใช้เป็นช่องทางเคลื่อนไหว เราก็พอใจในภาพรวมแต่ไม่ก็ยังไม่พอใจมากนักเพราะปัญหายังไม่หมดไป