นายกฯ ลงนามร่าง รธน.แล้ว ไม่วิจารณ์เลือก ปธน.มะกัน ยันยิ้มแย้มอารมณ์ดี

นายกรัฐมนตรีเผยลงนามร่างรัฐธรรมนูญแล้ว เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ไม่วิจารณ์เลือกประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกอย่าเพิ่งไปยุ่ง เอาบ้านเราให้เรียบร้อยก่อน ขอทุกคนยับยั้งชั่งใจ มีสติ เห็นใจผู้อื่น เจอนักข่าวทักหน้าดูเหนื่อยๆ บอกยิ้มแย้มอารมณ์ดี ทำงานเพื่อชาวบ้านจะเหนื่อยได้อย่างไร

วันนี้ (8 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทูลเกล้าฯ ถวายร่างรัฐธรรมนูญใหม่ว่า “สำหรับการทูลเกล้าฯ ถวายร่างรัฐธรรมนูญวันนี้ ผมได้ลงนามไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำขึ้นกราบบังคมทูลต่อไป และจากนี้เป็นไปตามกรอบเวลาที่มีอยู่ 90 วัน สำหรับผมมีกำหนดครบในวันนี้ 8 พ.ย. ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามขั้นตอน และกรอบเวลาที่จะต้องทูลเกล้าฯ ถวายภายใน 30 วัน”

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์กรณีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า เรื่องนี้ต้องรอฟังผลความคืบหน้าเสียก่อน ตอนนี้อย่าเพิ่งไปยุ่งกับเขา เอาบ้านเราให้เรียบร้อยก่อน เพราะประเทศไทยคือประเทศไทยที่มีความภาคภูมิใจของเราอยู่แล้ว อีกทั้งประเทศไทยก็เป็นหลักขออาเซียนอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเราต้องดำเนินการด้านการต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้สมดุลกันให้ได้ ระหว่างประเทศภายในอาเซียน กับประเทศคู่ค้าคู่เจรจาทั้งหมด สิ่งนี้คือสิ่งที่รัฐบาลคิดมาตลอด และได้เห็นความก้าวหน้าของการค้าการลงทุน หลายประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นกว่าเดิม เขาก็รอดูว่าประเทศไทยจะเรียบร้อยเมื่อใด จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ และอยู่ที่เราทุกคนว่าจะช่วยกันได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นเรื่องใดที่เป็นความขัดแย้งเราต้องแก้กันเองภายในให้ได้ก่อน โดยคนไทยทั้งหมดต้องช่วยกันไม่ว่าจะด้วยกฎหมาย หรือด้วยความเป็นคนไทย สิ่งเหล่านี้ย่อมแก้ไขได้ ถ้าทุกคนช่วยกันแก้ไข

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือน็อต กราบรถ นักแสดงหนุ่มที่ใช้อารมณ์ข่มขู่และทำร้ายร่างกายคู่กรณีที่ขับขี่จักรยานยนต์ชนรถของตน ซึ่งส่งผลต่อสังคมในเรื่องความรุนแรงว่า เรื่องความรุนแรงนั้นไม่มีใครชอบ และไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

“ทุกคนต้องมีความระงับยับยั้งชั่งใจ ในเวลานี้ควรมองที่เจตนาก่อน และถึงอย่างไรก็มีกฎหมายบังคับอยู่แล้ว ดังนั้นต้องถูกดำเนินคดีไปและควรระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะเกิดขึ้นมา 2-3 ครั้งแล้ว อย่างเมื่อวันก่อนเรื่องด่านทางด่วน และอีกไม่กี่วันก็เกิดเรื่องนี้อีก ผมเกรงว่าจะกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี จึงจำเป็นต้องเตือนไว้ก่อน ขอย้ำว่ากฎหมายมีอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย และสังคมก็ลงโทษ ผมไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก ต้องรู้จักระงับยับยั้งชั่งใจ และมีสติในการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องรู้จักเห็นใจคนอื่นบ้าง การโมโหกันไปมาไม่เกิดประโยชน์” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยใช้เวลาเพียง 15 นาที และในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีกำลังเดินเพื่อกลับไปยังตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า สีหน้านายกฯ ดูเหนื่อย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ผมยิ้มแย้มอารมณ์ดี ทำงานเพื่อประชาชนจะเหนื่อยได้อย่างไร”