ผบ.ทร.เป็นประธานจัดพิธีรับมอบเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงชุดใหม่ 5 เครื่องเข้าประจำการ พร้อมมอบ เสธ ทร.ดูแลชาวนา แจงเปิดหน่วยตามโครงการเปิดหน่วยช่วยชาติ เน้นลงพื้นที่เดือดร้อน แก้ปัญหาตรงจุด แจงน้ำท่วมเพชรบุรีลดแล้วหลังส่งเรือดันน้ำ 20 ลำลงพื้นที่ พร้อมส่งกำลังพลดูแล ปชช.ใกล้ชิด ย้ำจับตาพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย
วันนี้ (8 พ.ย.) เวลา 13.20 น. พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรับมอบเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงชุดใหม่ จำนวน 5 เครื่อง (เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ EC645 T2) เข้าประจำการในกองทัพเรือ ณ โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ ฝูงบิน 2 หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยกองทัพเรือได้ลงนามในสัญญาซื้อขายกับบริษัท แอร์บัส เฮลิคอปเตอร์ จำกัด สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ EC645 T2 จำนวน 5 เครื่อง เพื่อใช้ในภารกิจลำเลียงทางอากาศ สนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือและกำลังนาวิกโยธิน รวมถึงการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลและบนบก ตลอดจนการส่งกลับสายแพทย์
สำหรับเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ EC645 T2 มีคุณลักษณะที่สำคัญ คือ เป็นเฮลิคอปเตอร์แบบ 2 เครื่องยนต์ กำลัง 1,788 แรงม้า มีความกว้าง 7.86 เมตร ยาว 13.63 เมตร สูง 3.1 เมตร น้ำหนักตัวเปล่า 2.385 กิโลกรัม น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 3,700 กิโลกรัม ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 150 นอต (270 กม./ชม.) เพดานบินสูงสุด 20,000 ฟุต ระยะบินไกลสุด 648 กิโลเมตร ติดตั้งระบบอาวุธ ปืนกลขนาด 7.62 มิลลิเมตร จำนวน 2 กระบอก โดยสามารถบรรทุกผู้โดยสารสูงสุด 8 คน
ทั้งนี้ เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ EC645 T2 นับได้ว่าเป็นของเฮลิคอปเตอร์ขนาดเบาที่ได้รับการอัปเกรดระบบส่งกำลัง (เกียร์) ใหม่และใช้โรเตอร์หางแบบหุ้มเฟเนสตรอน (Fenestron) ที่เพิ่มความปลอดภัยในการลงจอดและขณะบิน ลดความดังของเสียงและการสั่นสะเทือน สำหรับในส่วนของห้องนักบิน เป็นรูปแบบระบบดิจิตอลทั้งหมด สามารถเข้ากับระบบกล้อง Night Vision Goggle สามารถออกปฏิบัติการในเวลากลางคืน พร้อมระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม ระบบหาพิกัด-ชี้เป้าด้วยเลเซอร์ และระบบดิสเพลย์อินฟราเรด-อิเล็กโทรออปติกส์ และระบบแจ้งเตือนสำหรับนักบิน ทำให้สามารถปฏิบัติการในทะเลได้ในทุกสภาพอากาศ ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ ทั้ง 5 เครื่องนี้จะเข้าประจำการในฝูงบิน 202 กองบิน 2 กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ
ด้าน พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงการช่วยเหลือชาวนาที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ว่าทาง พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้มอบหมายให้ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสธนาธิการทหารเรือ เป็นผู้รับผิดชอบดูแลในภาพรวมทั้งหมด โดยได้สั่งการไปยังหน่วยขึ้นตรงของกองทัพเรือทั้งหมด ให้ดำเนินการตามแนวทางที่รัฐบาล มอบนโยบายให้ช่วยเหลือเรื่องข้าว โดยการส่งกำลังพลเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ เช่น กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ร่วมมือกับชาวบ้านดูแลพื้นที่ที่เดือนร้อน พร้อมทั้งรับซื้อข้าวในบ้างส่วนเพราะกำลังพลของหน่วยบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก
สำหรับด้านแรงงาน หากชาวนาขาดแรงงานก็จะพิจารณาและส่งกำลังพลไปช่วย รวมถึงในพื้นที่ภาคใต้ด้วย อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือพร้อมช่วยเหลือเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะเรามีความใกล้ชิดกับชาวบ้าน และสามารถเข้าไปแก้ปัญหาให้ตรงจุดอย่างแท้จริงว่ามีปัญหาราคาข้าวตกต่ำจริงหรือไม่ และติดตามแนวทางตามที่รับบาลมอบหมาย พร้อมประสานกับเหล่าทัพอื่นๆ รวมถึงเป็นตลาดกลางในหน่วยทหารช่วยรับซื้อข้าวจากชาวนาไปจำหน่ายให้ประชาชน ตามโครงการเปิดหน่วยช่วยชาติ
“ขั้นต้นเราต้องไปดูจุดที่เป็นปัญหา โดยให้ผู้บังคับหน่วยทุกหน่วยในพื้นที่ตรวจสอบปัญหา แต่กลุ่มเกษตรกรบ้างกลุ่มมีความเข้มแข็งอยู่ในตัว ทางเจ้าหน้าที่ก็จะไปช่วยดูว่าเดือดร้อนอะไร อย่างไร เช่นไม่มีตลาดขายข้าว แล้วข้าวราคาตก ทางเราก็จะช่วยรับซื้อตามขีดความสามารถ ตรงไหนขาดเรื่องแรงงานก็จะส่งกำลังพลไปช่วย โดยจะต้องดูเนื้อของปัญหาให้ครบถ้วนเพราะแต่ละพื้นที่มีปัญหาต่างกัน เช่นปัญหาภาคตะวันออก อาจไม่รุนแรงเท่าพื้นที่ภาคกลาง”
พล.ร.ท.จุมพลกล่าวถึงเรื่องการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.เพชรบุรี ว่า พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือได้ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยว่าหน่วยในพื้นที่ได้ลงไปช่วยเหลือประชาชนอย่างไรบ้างและเป็นไปตามแนวทางที่กรมชลประทานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีช่วยกันดูแล ซึ่งขอดูสถานการณ์ภาพรวมอีก 3 วัน เนื่องจากขณะนี้น้ำได้ลดระดับลงไป 1 เมตร เชื่อว่าอีก 3 วันจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ตอนนี้สภาพอากาศยังมีฝนอยู่บ้างจึงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป นอกจากนี้ กองทัพเรือยังได้จัดส่งเรือดันน้ำ 20 ลำเข้าไปช่วยดันน้ำออกจากพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ 40-50 คนไปดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนี้ ทางกองทัพเรือยังจับตาดูพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย คือ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีกรมชลประทานเป็นแม่งานร่วมกับจังหวัด ถ้าหน่วยงานในพื้นที่ขาดขีดความสามารถเรื่องใดและความสามารถที่กองทัพเรือมีอยู่ หากช่วยได้ก็จะดำเนินการช่วยเหลือต่อไป โดยเฉพาะในเรืองเรือต่างๆ เช่น เรือท้องแบนและเรือดันน้ำ ซึ่งหน่วยในพื้นที่จะติดตามอย่างใกล้ชิด