ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม กอร.รส. ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชน ย้ำกำลังพลต้องสร้างจุดสมดุล ไม่กดดันประชาชน แต่สิ่งสำคัญคือการรักษาความปลอดภัย หนุนตั้งโรงทานแจกสิ่งของผู้ยากไร้ พร้อมขอบคุณประชาชนให้ความร่วมมือ ทั้งการตรวจค้น จัดระเบียบเข้าคิว
ที่กองอำนวยการร่วมรักศาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) โดยรอบพื้นที่พระบรมมหาราชวัง เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (4 พ.ย.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับทราบปัญหาการดำเนินงานของ กอร.รส. โดยมี พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผอ.กอร.รส. พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรอง ผอ.กอร.รส.ร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติงาน
พล.ท.อภิรัชต์รายงานว่า การปฏิบัติงาน กอร.รส.อยู่ภายใต้กรอบ 3 ประการ ที่ ผบ.ทบ.มอบหมายให้ คือ 1. การอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน 2. การบริการประชาชน และ 3. การจัดคิวการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นอกจากนี้ สิ่งที่ ผบ.ทบ.แสดงความห่วงใยในเรื่องการรักษาความปลอดภัย ซึ่งหลังจากวันที่ 3 พฤศจิกายนทาง กอร.รส.ได้จัดการดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม พร้อมเข้มงวด 4 ท่าเรือที่เป็นจุดรับส่งประชาชน คือ ท่าเตียน, ท่าช้าง, ท่ามหาราช และท่าพระจันทร์ โดยจัดกำลังทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่การท่าเรืออย่างละ 5 นายดูแลความปลอดภัย ตั้งแต่เวลา 05.00-22.00 น.ทุกวัน
ด้าน พล.ต.พงษ์สวัสดิ์กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรองรับประชาชนที่จะเข้าไปถวายสักการะฯ ช่วง 5-6 พฤศจิกายน ว่าหากมีประชาชนเดินทางมามากเกิน 30,000 คน ก็จะแจ้งเตือนให้ประชาชนเดินทางมาทีหลังรับทราบว่าอาจจะไม่ได้เข้าไปถวายสักการะฯ เพราะหมดเวลา แต่เราได้ประสานงานไปยังสำนักพระราชวัง โดยระบุว่าจะให้ประชาชนที่อยู่แนวรอคอยในแต่ละวันให้เข้าไปถวายสักการะฯ ได้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ผิดหวัง นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ยังได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการเวียนเทียนมารับของบริจาค โดยจะจัดโรงทานแยกเฉพาะให้มารับของโดยตรง เพื่อไม่ให้มาปะปนกับประชาชนที่เข้ามาถวายสักการะฯ อีกด้วย
พล.ต.พงษ์สวัสดิ์กล่าวต่อว่า ทาง กอร.รส.ได้เน้นย้ำจุดคัดกรองทั้ง 8 จุดให้สังเกตประชาชนที่มีอาการทางจิต เนื่องจากเกิดกรณีมีบุคคลได้แสดงอาการทางจิตในขณะที่เข้าถวายสักการะฯ ซึ่งทางราชองครักษ์ได้กันตัวออกมาได้ทันท่วงที ขณะเดียวกันยังได้ประสานเจ้าหน้าที่ตามจุดพักคอยให้แจ้งเตือนประชาชนให้สังเกตบุคคลรอบข้างว่ามีบุคคลแสดงอาการทางจิตหรือไม่ โดยทางกรมสุขภาพจิตได้จัดเจ้าหน้าที่รองรับบุคคลที่มีอาการดังกล่าวไว้
“จากการที่ได้พูดคุยกับแพทย์ที่ให้คำแนะนำว่าคนที่มีอาการทางจิตจะไม่แสดงอาการในทันที ดังนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่รอบข้างช่วยกันสอดส่องดูแลเพื่อสแกนคนไปเข้าถวายสักการะฯ ให้ได้มากที่สุด อีกทั้งป้องกันปัญหาดังกล่าวได้ด้วย”
ขณะที่ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า สถานการณ์ความหนาแน่นของประชาชนลดน้อยลง อยากให้เจ้าหน้าที่ปรับตามความเหมาะสม เพราะงานครั้งนี้สำคัญ ต้องเก็บข้อมูลทุกอย่าง ซึ่งภาพรวมมีความเรียบร้อย ทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกองค์กร ส่วนปัญหาใหญ่มีความคลี่คลายลงและอยู่ในสภาวะสมดุลแล้ว เมื่อทุกอย่างเข้าที่ขอให้จัดระเบียบเป็นมาตรฐานและสมพระเกียรติ ซึ่งจะมีเพียงวันเสาร์ วันอาทิตย์ และช่วงเทศกาลเท่านั้นที่จะมีประชาชนเดินทางมามากกว่าปกติ อยากให้ กอร.รส.ปรับมาตรฐานในการทำงานเพื่อระยะยาว เนื่องจากการเข้ามาทำงานช่วงแรกมาแบบฉุกละหุก การจัดตั้งหน่วยงานต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์ อยากให้มีการปรับแก้เพื่อให้มีมาตรฐาน
ส่วนบุคลากรด้านความมั่นคงที่รับผิดชอบหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมงนั้นอาจมีความล้า ดังนั้นขอให้บริหารจัดการคนให้ดี การที่ไม่หมุนเวียนคนถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะกำลังพลจะเกิดความชำนาญ แต่มีข้อเสียเมื่อชำนาญแล้วจะทำให้เกิดช่องว่างและหละหลวม ส่วนกำลังพลที่มาใหม่ขอให้จัดระเบียบและอบรม ขอให้จัดคนหมุนเวียนเป็นวงรอบ เพื่อให้กำลังพลไม่เครียด เพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน เพราะเราต้องดูแลพื้นที่ให้มีความเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวต่อว่า เรื่องการจัดระเบียบขอให้ขยายวงกว้างเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและปลอดภัย ส่วนการแก้ไขปัญหาจุดอ่อนต้องดำเนินการต่อเนื่อง โดยให้ประชาชนช่วยสังเกตคนที่มีอาการทางจิต เพราะบางคนมีจุดประสงค์หลายอย่าง ทั้งต้องการอาหาร การเวียนเทียนรับสิ่งของ ขอให้บริหารจัดการในทางที่ดีเพราะถือเป็นเรื่องความอดยาก ขอให้มีเมตตาธรรม ถือเป็นการทำบุญ ซึ่งการจัดโรงทานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวถือว่าเหมาะสม นอกจากนี้ขอให้ทำความเข้าใจกับจิตอาสาถึงกรณีดังกล่าว เพราะเขามุ่งหวังนำสิ่งของมาให้ประชาขน การแบ่งสิ่งของไปให้คนเร่ร่อนอาจทำให้ของบริจาคลดจำนวนลงก็ต้องทำความเข้าใจ หากเราทำได้ดีก็ยืดระยะยาวได้และทุกคนก็จะมีความสุข
“คนที่มีรายได้น้อยก็ให้เขากินด้วยตามสมควร ถือเป็นการทำบุญ อย่าไปสร้างความกดดดันให้คนกลุ่มนี้ ทำแต่พองาม แต่สิ่งสำคัญคือการรักษาความปลอดภัย ผิดพลาดไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาขอชื่นชม กอร.รส.เรียบร้อยดี และปรับปรุงจุดอ่อนต่างๆ ให้อยู่ในมาตรฐานระยะยาวต่อไป ในส่วนของกำลังพลทุกคนถือเป็นบุคลากรที่มีโอกาสทำภารกิจสำคัญ สิ่งที่ต้องตระหนักคือเรากำลังทำงานสำคัญของรัฐบาลและประเทศชาติ เป็นแกนหลักต้องทำให้ดีที่สุด แต่อย่าทำให้ประชาชนเกิดความอึดอัด ขอให้อยู่ในจุดที่สมดุล ระมัดระวัง ทุ่มเทเต็มขีดความสามารถ ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง แต่อย่าระแวง หากเข้มงวดมากไปก็จะเกิดความกดดันด้านจิตใจของประชาชน เราต้องให้กำลังใจกัน เพราะเป็นงานสำคัญ”
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า อยากขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทั้งการตรวจค้น การจัดระเบียบเข้าคิว จนทำให้ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.ถึงวันนี้มีความเรียบร้อย แต่ต้องขอโทษประชาชนหากมาตรการรักษาความปลอดภัยไปเร่งรัดทำให้อึดอัดและเดือดร้อนขอให้เข้าใจเจ้าหน้าที่