“บิ๊กตู่” ยันรัฐธรรมนูญเสร็จตามกำหนด ได้ใช้แน่ ส่วนการจัดระเบียบสื่อมวลชนเป็นไปตามข้อเสนอฝ่ายความมั่นคง ทุกคนต้องมีสังกัด ไม่คิดรังเกียจใคร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสวบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการปรับปรุงคำปรารภของร่างรัฐธรรมนูญว่า ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าขณะนี้เราอยู่ในสถานการณ์ไหน โดยรัฐธรรมนูญจะเสร็จตามกำหนด 30 วัน โดยครบกำหนดในวันที่ 9 พ.ย. และก็ต้องขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายไปภายในเวลาที่กำหนด จากนั้นพระองค์ท่านก็จะไปพิจารณาอีก 90 วันก็จะทรงลงพระปรมาภิไธย ในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญเขาก็ชี้แจงมาแล้วว่าสามารถแก้ไขคำปรารภได้เพราะมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง และพระปรมาภิไธยก็ต้องเปลี่ยนแปลง แต่สาระสำคัญก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักเพราะทำมาแล้ว ก็ไปรอดูแล้วกันอย่าไปกังวล ยังไงก็ได้ใช้แน่
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงมาตรการในการดูแลสื่อมวลชนที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาลว่า ตนต้องขอความร่วมมือในการจัดระเบียบ เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงได้เสนอมา ช่วงนี้ต้องระมัดระวัง ไม่ใช้ไม่ไว้ใจใคร แต่ผู้ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะคนที่จะเข้ามาในสถานที่ราชการจะต้องมีหนังสือรับรอง ซึ่งทุกคนจะมีหนังสือรับรองเพราะสถานที่ราชการนั้นสำคัญ
“นักข่าวก็ต้องมีสังกัด ยืนยันว่าผมไม่ได้รังเกียจใครเลย อย่ามาตีความว่าผมไม่ชอบใคร ผมก็คารวะเหมือนเดิมทุกครั้ง อย่ามามองในประเด็นเหล่านี้ เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงเขาเสนอเรื่องขึ้นมาว่าทุกคนที่จะเข้ามาในเขตสถานที่ราชการโดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาลจะต้องมีใบรับรอง กรณีที่เป็นนักข่าวต้องมีสังกัด ในสถานที่นี้ใครไม่มีบ้างซึ่งทุกคนต้องมี ใครไม่มีแล้วเจ้าหน้าที่ไม่ต่อให้ก็คือไม่มี ก็ไปหามา ขอให้เราได้ทำงานให้ถูกตามระเบียบวินัย กฎหมาย ถือเป็นเรื่องสำคัญ”
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลายเรื่องที่รัฐบาลได้นำสู่การแก้ไข ต่อจากนี้ไปขอให้ไปติดตามทางช่อง 11 และสถานที่อื่นๆ ตนได้สั่งการให้ไปแทรกเป็นข้อมูลเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล สอดคล้องกับศาสตร์พระราชา รวมทั้งเรื่องของงานจัดงานพระบรมศพ รวมทั้งพระราชกรณียกิจ ซึ่งทุกช่องควรมีการนำเสนอ รวมทั้งผลการดำเนินนโยบายของรัฐบาลต่างๆ ทั้งรถไฟรางคู่ การบริหารจัดการน้ำ ตนได้สั่งการให้นำไปฉายที่สนามหลวงด้วย เพราะบางคนอาจไม่ได้ดูทางช่อง 11 ซึ่งถ้าไม่รู้และถูกบิดเบือนก็จะทำให้การทำงานล่าช้า เพราะคนเข้าใจผิด สิ่งที่ไม่ค่อยสบายใจอีกอย่างคือมีการกล่าวหาว่าตนไปเอื้อประโยชน์กับบริษัทห้างร้าน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง