ผู้จัดการรายวัน 360 - คำสั่ง ม.44เด้ง “พล.ต.อ.วุฒิ” เข้ากรุสำนักนายกฯ "นายพลไก่อู" ผงาดคุมกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมเชือด 70 ขรก.ท้องถิ่น - 2 ตำรวจ “ประยุทธ์” แจงอยากบูรณาการงานพีอาร์ “ประวิตร” เผยตบรางวัล “วุฒิ” ขึ้นซี 11 อ้างเจ้าตัวสมัครใจ “สรรเสริญ” โวทำเต็มที่ตามคำสั่งนาย มติ ครม.เด้ง “เกษมสันต์” พ้นปลัด ทส.
วานนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 59/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 8 และการปรับปรุงการบริหารงานบุคคลในบางหน่วยงานของรัฐ โดยอาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว โดยมีสาระสำคัญพักงานข้าราชการพลเรือน ข้าราชการตำรวจ และผู้มีตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 72 ราย ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการใน จ.มหาสารคราม และนายตำรวจ 2 ราย
** "ไก่อู" ขึ้นหม้อคุม “กรมกร๊วก”
คำสั่งดังกล่าวยังแต่งตั้ง พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการในตําแหน่ง อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นการชั่วคราว รวมทั้งให้ให้ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พ้นจากตําแหน่ง และให้โอนไปเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่าเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ
** นายกฯแจงบูรณาการงานพีอาร์
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงสาเหตุการแต่งตั้ง พล.อ.สรรเสริญ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ว่า เพื่อบูรณาการงานด้านประชาสัมพันธ์ให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดย พล.ต.สรรเสริญก็รู้ทั้งงานใน คสช. และรัฐบาล ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ก็มีหน้าที่เป็นโฆษกฯประชาสัมพันธ์งานของรัฐอยู่แล้ว โดยรับรองว่า พล.ต.สรรเสริญจะรู้บทบาทตัวเอง ส่วนจะรักษาการนานเท่าใดยังไม่ทราบ หรือจนกว่าจะมีคนใหม่เข้ามา ส่วนกรณี พล.ต.อ.วุฒิ นั้น ต้องการให้มาช่วยงานในเรื่องของป่าไม้ การบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งเท่าที่ทราบยังเหลืออายุราชการอีก 1 ปีพร้อมเปิดเผยว่า ได้ลงนามแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่มเติม 30 คนไปแล้ว รอให้มีพระบรมราชโองการฯลงมา ส่วนใหญ่ก็เป็นข้าราชการที่เกษียณก็มีการแต่งตั้งเข้ามาทดแทน บุคคลภายนอกมี 2 คน เท่านั้น
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.วุฒิ ว่า พล.ต.อ.วุฒิ เป็น รอง ผบ.ตร.อยู่ในระดับซี 10 มานานถึง 5 ปีแล้ว น่าจะได้ตำแหน่งสูงขึ้น จึงโยกย้ายมาที่ใหม่จะได้ขึ้นเป็นซี 11 ซึ่งเจ้าตัวก็สมัครใจ
** “สรรเสริญ” โวทำเต็มที่
ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวถึงการเข้าทำหน้าที่รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ว่า อยากให้มีการเชื่อมโยงงาน ของคสช.และรัฐบาล เพื่อสนับสนุนให้เป็นสถานีโทรทัศน์ที่เป็นการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ ซึ่งอธิบดีคนเก่ทำไว้ดีแล้ว ตนคงจะเข้าทำเพิ่มเดิม ยอมรับว่าไม่ทราบมาก่อน แต่เมื่อได้รับคำสั่งก็ต้องทำเต็มที่
“ก็ต้องพยายามหาอะไรที่จะทำให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง และเข้าใจประเด็น แต่คงไม่ถึงกับต้องไปจัดระเบียบอะไร เพราะผมก็ไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหน และต้องการให้ช่อง 11 เป็นสถานีโทรทัศน์เพื่อการพัฒนาประเทศ” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
** ครม.เด้ง “เกษมสันต์” ปลัด ทส.
พล.ต.สรรเสริญ ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยว่า ที่ประชุมได้มีคำสั่งให้ นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า คำสั่งย้ายนายเกษมสันต์เป็นการเสนอโดยสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ผ่านทาง รมว.ทรัพยากรฯ หรือรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลรับผิดชอบกระทรวงแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังเป็นคำสั่งที่ออกมาในช่วงที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อ อยู่ระหว่างเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศ
ขณะที่ นายเกษมสันต์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับทราบข่าวการโยกย้ายดังกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร และคงต้องลองให้คนอื่นมาทำหน้าที่ดูบ้าง
เมื่อถามว่าการโยกย้ายครั้งนี้เป็นเพราะมีความขัดแย้งกับ พล.อ.สุรศักดิ์ หรือไม่ นายเกษมสันต์ ตอบว่า คงต้องไปถามรัฐมนตรีเอง แต่ส่วนตัวได้ทำตามหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว เรื่องความขัดแย้งคงไม่พูดถึง.
วานนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 59/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 8 และการปรับปรุงการบริหารงานบุคคลในบางหน่วยงานของรัฐ โดยอาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว โดยมีสาระสำคัญพักงานข้าราชการพลเรือน ข้าราชการตำรวจ และผู้มีตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 72 ราย ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการใน จ.มหาสารคราม และนายตำรวจ 2 ราย
** "ไก่อู" ขึ้นหม้อคุม “กรมกร๊วก”
คำสั่งดังกล่าวยังแต่งตั้ง พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการในตําแหน่ง อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นการชั่วคราว รวมทั้งให้ให้ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พ้นจากตําแหน่ง และให้โอนไปเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่าเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ
** นายกฯแจงบูรณาการงานพีอาร์
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงสาเหตุการแต่งตั้ง พล.อ.สรรเสริญ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ว่า เพื่อบูรณาการงานด้านประชาสัมพันธ์ให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดย พล.ต.สรรเสริญก็รู้ทั้งงานใน คสช. และรัฐบาล ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ก็มีหน้าที่เป็นโฆษกฯประชาสัมพันธ์งานของรัฐอยู่แล้ว โดยรับรองว่า พล.ต.สรรเสริญจะรู้บทบาทตัวเอง ส่วนจะรักษาการนานเท่าใดยังไม่ทราบ หรือจนกว่าจะมีคนใหม่เข้ามา ส่วนกรณี พล.ต.อ.วุฒิ นั้น ต้องการให้มาช่วยงานในเรื่องของป่าไม้ การบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งเท่าที่ทราบยังเหลืออายุราชการอีก 1 ปีพร้อมเปิดเผยว่า ได้ลงนามแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่มเติม 30 คนไปแล้ว รอให้มีพระบรมราชโองการฯลงมา ส่วนใหญ่ก็เป็นข้าราชการที่เกษียณก็มีการแต่งตั้งเข้ามาทดแทน บุคคลภายนอกมี 2 คน เท่านั้น
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.วุฒิ ว่า พล.ต.อ.วุฒิ เป็น รอง ผบ.ตร.อยู่ในระดับซี 10 มานานถึง 5 ปีแล้ว น่าจะได้ตำแหน่งสูงขึ้น จึงโยกย้ายมาที่ใหม่จะได้ขึ้นเป็นซี 11 ซึ่งเจ้าตัวก็สมัครใจ
** “สรรเสริญ” โวทำเต็มที่
ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวถึงการเข้าทำหน้าที่รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ว่า อยากให้มีการเชื่อมโยงงาน ของคสช.และรัฐบาล เพื่อสนับสนุนให้เป็นสถานีโทรทัศน์ที่เป็นการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ ซึ่งอธิบดีคนเก่ทำไว้ดีแล้ว ตนคงจะเข้าทำเพิ่มเดิม ยอมรับว่าไม่ทราบมาก่อน แต่เมื่อได้รับคำสั่งก็ต้องทำเต็มที่
“ก็ต้องพยายามหาอะไรที่จะทำให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง และเข้าใจประเด็น แต่คงไม่ถึงกับต้องไปจัดระเบียบอะไร เพราะผมก็ไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหน และต้องการให้ช่อง 11 เป็นสถานีโทรทัศน์เพื่อการพัฒนาประเทศ” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
** ครม.เด้ง “เกษมสันต์” ปลัด ทส.
พล.ต.สรรเสริญ ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยว่า ที่ประชุมได้มีคำสั่งให้ นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า คำสั่งย้ายนายเกษมสันต์เป็นการเสนอโดยสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ผ่านทาง รมว.ทรัพยากรฯ หรือรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลรับผิดชอบกระทรวงแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังเป็นคำสั่งที่ออกมาในช่วงที่ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อ อยู่ระหว่างเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศ
ขณะที่ นายเกษมสันต์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับทราบข่าวการโยกย้ายดังกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไร และคงต้องลองให้คนอื่นมาทำหน้าที่ดูบ้าง
เมื่อถามว่าการโยกย้ายครั้งนี้เป็นเพราะมีความขัดแย้งกับ พล.อ.สุรศักดิ์ หรือไม่ นายเกษมสันต์ ตอบว่า คงต้องไปถามรัฐมนตรีเอง แต่ส่วนตัวได้ทำตามหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว เรื่องความขัดแย้งคงไม่พูดถึง.
