อดีต ส.ส.ปชป. อัด “อัศวิน” เป็นใหญ่ได้นั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.แล้วทับถมพรรคที่ให้กำเนิดทางการเมือง ท้าพูดให้ชัดนโยบายไหนแค่หาเสียงอย่าใส่ร้าย บอก ขรก.กทม.สยองหลังผู้ว่าฯ คนใหม่ประกาศนำแนวทางแต่งตั้งตำรวจมาใช้ในการโยกย้าย
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ที่กล่าวถึงนโยบายต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ หากอันไหนดีก็พร้อมจะสานต่อ แต่อันไหนที่ทำเพียงเพราะคะแนนเสียง ถ้าต้องฝืนใจก็คงไม่เอาว่า พล.ต.อ.อัศวิน มีผลงานเป็นที่พอใจของผู้ขายและผู้ซื้อที่ดินผืนใหญ่ในย่านนั้นและกลุ่มทุนเจ้าของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ย่านดังกล่าว แต่สร้างความหายนะให้แก่ผู้ค้าดอกไม้ย่านปากคลองตลาดหรือผู้ค้าหาบเร่แผงลอยซึ่งเป็นคนหาเช้ากินค่ำตามเศรษฐกิจพอเพียงนับพันรายก็แล้วแต่มุมมอง เป็นการขยายช่องว่างทางชนชั้นระหว่างคนจนกับคนรวยให้ห่างจากกันยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสังคมในอนาคตอย่างแน่นอน
“สิ่งที่น่าสงสัยในคำที่ว่า นโยบายต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ หากอันไหนดีก็พร้อมจะสานต่อ แต่อันไหนที่ทำเพียงเพราะคะแนนเสียง ถ้าต้องฝืนใจก็คงไม่เอา แสดงว่าขณะเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.ถูกฝืนใจให้ทำมา 3 ปีกว่า น่าสงสารท่านมากจริงๆ การพูดออกมาเช่นนี้ทำให้พรรคเสียหายเป็นอย่างยิ่งเพราะคนอาจเข้าใจพรรคนำเสนอนโยบายเพียงเพื่อการหาเสียงเท่านั้น”
นายวัชระกล่าวยืนยันว่า ทุกนโยบายของพรรคต้องทำได้จริง ประเทศชาติและประชาชนได้ประโยชน์และไม่เป็นภาระการคลังของประเทศในอนาคต และที่สำคัญคือทุกเรื่องต้องซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชันหรือเรียกรับเงินทอนจากโครงการต่างๆ แต่ประการใด พล.ต.อ.อัศวินได้เป็นรองผู้ว่าฯ กทม.เพราะพรรคประชาธิปัตย์ จนผลงานเข้าตาทหาร เมื่อได้เป็นใหญ่โตแล้วก็ไม่ควรทับถมพรรคที่ให้กำเนิด และอยากให้ความเป็นธรรมแก่พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยเคารพด้วย และควรชี้ให้ชัดว่ามีโครงการใดเรื่องใดที่ทำเพียงเพื่อการหาเสียง เพื่อตนจะได้เสนอให้ยกเลิก แต่ถ้าไม่มีก็จะเป็นการให้ร้ายต่อพรรคหรือไม่
“ที่บอกจะเร่งรัดเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายภายในกว่า 700 ตำแหน่ง โดยจะใช้หลักพิจารณาความสามารถและความอาวุโสคล้ายกับระบบตำรวจ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการ กทม.และให้ตำแหน่งแก่คนทำงานจริงๆ แสดงว่าที่ผ่านมาโยกย้ายแต่งตั้งไม่เป็นธรรมเลยใช่หรือไม่ จึงขอให้ทำตามหลักการที่ประกาศ อย่าให้มีการซื้อขายตำแหน่งเหมือนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะที่ผ่านมาการแต่งตั้งโยกย้ายใน กทม.ก็ไม่แตกต่างอะไรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลยแม้แต่น้อย จึงขอสนับสนุนให้ข้าราชการที่ทำงานจริง ซื่อสัตย์ สุจริต แต่ไม่มีเส้นไม่มีสายให้เจริญก้าวหน้าในอาชีพราชการ เลิกซื้อขายตำแหน่ง เลิกส่งส่วยเก็บส่วยเทศกิจกันได้แล้ว หากใครถูกรีดไถจะให้แจ้งได้ที่สายด่วนสายใด พล.ต.อ.อัศวินควรให้เบอร์สายตรงกับประชาชน แต่การที่ท่านบอกจะแต่งตั้งข้าราชการ กทม.ให้คล้ายกับระบบตำรวจนั้นเป็นเรื่องสยองขวัญของข้าราชการ กทม.แล้ว เพราะเขารู้ดีว่าระบบตำรวจนั้นเป็นอย่างไร”
