รองแม่ทัพภาคที่ 1 เผยสำนักพระราชวังจะเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพ ตั้งแต่ 29 ต.ค.เป็นช่วงเวลา คาดให้เข้าราวหมื่นคนต่อวัน พร้อมจัดคิวให้เป็นระเบียบมากสุด รับยังมีปัญหาจราจร ชมทีมแพทย์ จิตอาสาช่วยคนป่วย เตือนระวังเด็กหลง ดูก่อนสร้างสะพานอีกหรือไม่ ระบุยังขาดอาหารแห้ง ถุงขยะ ด้านโฆษก คสช.จ่อใช้สนามม้านางเลิ้งรวมอาหารและน้ำก่อนกระจายเข้าพื้นที่
วันนี้ (24 ต.ค.) พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลความเรียบร้อยและการจราจรโดยรอบพระบรมหาราชวัง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับประชาชนที่จะเดินทางสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ว่าจากการประชุมร่วมกับสำนักพระราชวังแล้วจะเปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะพระบรมศพเป็นช่วงเวลา เนื่องจากจะมีการประกอบพระราชพิธีควบคู่ไปด้วย โดยทางกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยจะอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด คาดว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพได้ประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยจะพยายามจัดคิวให้เป็นระเบียบมากที่สุด และจะมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อหาวิธีให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะพระบรมศพให้ได้มากที่สุด
ส่วนสถานการณ์ภาพรวมโดยรอบพระบรมมหาราชวังและท้องสนามหลวงในช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น พล.ต.พงษ์สวัสดิ์กล่าวว่า พบว่ายังคงมีปัญหาเรื่องการจราจรที่คับคั่ง และประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก เกินข้อจำกัดที่เจ้าหน้าที่จะรับไหว แต่ทุกอย่างก็ได้รับการคลี่คลายอย่างรวดเร็วจากความร่วมมือของประชาชน ทั้งนี้ ส่วนตัวขอชื่นชมทีมแพทย์และจิตอาสาที่คอยช่วยเหลือประชาชนที่เป็นลมจำนวนมากได้ทันเวลา พร้อมกันนี้ฝากไปถึงผู้ปกครองที่นำบุตรหลานเดินทางมายังพื้นที่ท้องสนามหลวง ให้เขียนชื่อและนามสกุลติดไว้กับตัวเด็กเพื่อป้องกันการผลัดหลง รวมถึงผู้สูงอายุควรเขียนชื่อโรคประจำตัวและนำยารักษาโรคติดตัวมาด้วยเพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง
ส่วนการก่อสร้างสะพานเบลีย์ทั้งสองสะพานนั้น พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ระบุว่า เป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรที่คับคั่ง และไม่ต้องการให้ประชาชนลงไปเดินบนถนน ส่วนจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมหรือไม่ คงต้องดูจากจำนวนของประชาชนที่เดินทางมาอย่างต่อเนื่อง โดยทางกองอำนวยการร่วมฯ ก็พร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างในทันที ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนความต้องการสิ่งของที่จะนำมาบริจาคนั้น สิ่งที่ต้องการในขณะนี้คือ อาหารแห้งที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน และของใช้ประเภทถุงขยะ เพื่อให้กลุ่มจิตอาสานำไปใช้เก็บขยะได้ต่อไป
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เปิดเผยว่า การประชุมประจำวันของ กอ.ร่วมฯ มีหารือกันในหลายประเด็นซึ่งสำหรับงานอำนวยความสะดวกในส่วนกระทรวงกลาโหมโดยกองทัพบกคือเรื่องการจัดสร้างสะพานเบลีย์แบบ M2 เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรเสริมในการข้ามคลองหลอดบริเวณหลังกระทรวงกลาโหม ได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปเมื่อคืน พี่น้องประชาชนสามารถใช้เพื่อเดินข้ามคลองหลอดเข้ามายังพื้นที่ท้องสนามหลวงได้ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้แล้ว
โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติกล่าวว่า ต่อมาเรื่องของการบริหารจัดการอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้มีจิตอาสานำมาสนับสนุน ในเบื้องต้นเพื่อความเหมาะสมทาง กทม.อาจมีการขอปรับไปใช้สถานที่ใดที่หนึ่งในบริเวณใกล้เคียงสนามหลวง เบื้องต้นอาจเป็นที่สนามม้านางเลิ้ง เพื่อใช้เป็นจุดนัดพบเริ่มต้นก่อนกระจายต่อเข้าในพื้นที่โดยมีแนวทางคือรถเล็กเมื่อลงทะเบียนแล้วจะให้นำอาหารหรือสิ่งของเข้าไปขนถ่ายได้ที่ บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้มีกลุ่มอาสาสมัครจะร่วมบริหารจัดการขนถ่ายต่อให้ไปยังจุดแจกที่กำหนด ส่วนรถใหญ่เมื่อลงทะเบียนเสร็จ คอยเวลากลางคืนตรงเข้าไปขนถ่ายได้ในพื้นที่ ช่วงหลังเที่ยงคืนถึง 6 โมงเช้า หรือกรณีถ้ามีการปรับเพิ่มเติมอย่างไรเพื่อให้เหมาะสมที่สุดทาง กทม. จะมีการประชาสัมพันธ์ในรายละเอียดให้ทราบต่อไป
ส่วนเรื่องการจัดลำดับเข้าทำกิจกรรมในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งในวันที่ 29 ต.ค.เป็นต้นไปจะเป็นการเข้ากราบสักการะบริเวณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ข้อมูลเบื้องต้นจากทางสำนักพระราชวังได้ประเมินไว้ในขั้นต้นว่าอาจจะรองรับประชาชนได้ประมาณวันละ 10,000 คน ซึ่งอาจแตกต่างจากกิจกรรมการเข้าลงนามแสดงความอาลัยที่ผ่านมา อาจด้วยเพราะขั้นตอนปฏิบัติและขนาดพื้นที่ภายในที่แตกต่างกัน
