xs
xsm
sm
md
lg

ถึงโศกเศร้าอาดูรเพียงใด แต่บ้านเมืองต้องเดินหน้าต่อไป !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ในรอบศตวรรษ หรือในรอบกี่ร้อยกี่ก็ว่าได้ ที่ตั้งแต่เกิดมาหรือได้รับรู้ข่าวสารมาตั้งแต่ในอดีตยังไม่เคยเห็นความรักความอาลัยที่คนไทยและชาวโลกมีต่อพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่ง ที่เปรียบเหมือน “พ่อ” ในใจ ที่ลูกๆ ทุกคนให้ความรักความเคารพอย่างสูงสุด

ความโศกเศร้าอาดูรที่คนไทยได้รับทราบการเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้นจะสุดพรรณนาดังจะเห็นได้จากคลื่นประชาชนที่หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศเพื่อแสดงความอาลัยต่อ “พ่อของแผ่นดิน” พระองค์นี้ ภาพที่คนไทยสวมใส่ชุดดำ หรือที่ใส่ชุดสีอะไรก็แล้วแต่ไม่ว่ายากดีมีจนอยู่ในฐานะอะไร เชื้อชาติอะไร ทุกคนต่างดั้นด้นเดินทางมาที่พระบรมมหาราชวัง เพื่อมาถวายสักการะพระบรมศพ แม้ว่าจะยังไม่เปิดให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯกราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในขณะนี้ ต้องรอภายหลังจาการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน

ดังนั้น เพื่อให้เข้าใจที่ตรงกันและถูกต้องก็ฟังจากสำนักพระราชวังที่มีประกาศออกมาอีกครั้งหนึ่งดังนี้

ประกาศสำนักพระราชวัง

เรื่อง การถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

-------------------------------------

ด้วยสำนักพระราชวังได้รับพระราชานุญาตในการเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ดังนี้

๑. พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ในการนี้ได้จัดสมุดหลวงลงนามถวายความอาลัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

๒. พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2559 เวลา 13.00 น.

๓. พระราชทานพระราชานุญาตให้ภาคต่างๆ ทั้งบุคคล คณะบุคคล ภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศล สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ครบ 50 วัน

จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง

๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙

อย่างไรก็ดี บรรยากาศที่เห็นทุกวันนี้มีประชาชาชนหลั่งไหล คลาคล่ำตลอดทั้งวันทั้งคืน ยิ่งนานยิ่งมากไม่มีจุดสิ้นสุด แต่ในจำนวนมากมายมหาศาลดังกล่าว กลับไม่มีความวุ่นวายโกลาหล มีแต่ความร่วมมือร่วมใจเอื้ออาทรต่อกัน ใครที่กำลังทรัพย์ มีฐานะดี ก็แบ่งปันบริการแจกน้ำ อาหาร ยาดมยาหม่อง หรือแม้กระทั่งขณะเกิดฝนตกหนักก็แจกร่ม เสื้อกันฝน พี่น้องทั้งที่ไม่ได้เป็นคนขับรถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้างต่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่บริการรับส่งอำนวยความสะดวกกันอย่างเต็มที่ เป็นภาพที่แม้จะมีความเศร้าอาลัย แต่ก็เกิดความสุขในหัวใจขึ้นมาพร้อมๆ กัน ว่านี่คือหัวใจของคนไทยที่พร้อมใจกันทำเพื่อ “พ่อ” แสดงความรัก ความพร้อมใจต่อกัน เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ ที่แม้แต่ต่างชาติยังต้องทึ่งกับความรักของคนไทยที่มีต่อพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นมากกว่าพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รัก จนไม่รู้จะพูดจะบรรยายออกมาแบบใดได้แล้ว

ด้วยหมายกำหนดการและพระราชพิธีที่ต้องมีอย่างต่อเนื่องยาวนาน ขณะเดียวกัน การหลั่งไหลเข้ามาของพี่น้องประชาชนจากทุกสารทิศก็ต้องยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องมีการบริหารจัดการที่ดีเพื่อรองรับ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน แม้ว่าในเวลานี้ย่อมรับรู้กันว่าทุกคนกำลังอยู่ในห้วงของความโศกเศร้าอาลัยอย่างไรก็ตาม แต่บ้านเมืองและทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไป ดังที่พระเจ้าอยู่หัวเคยตรัสเอาไว้ว่า “เราต้องไม่ลืมหน้าที่และต้องปฏิบัติทุกอย่างให้สมบูรณ์เต็มกำลังเพื่อการพัฒนาประเทศไทยของเรา” ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ปฏิบัติเป็นตัวอย่างด้วยการประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติก็มีการประชุม ขณะเดียวกัน สิ่งไหนว่าจะเป็นอุปสรรคติดขัดก็ออกคำสั่งแก้ไขเพื่อให้เดินหน้า

ดังจะเห็นล่าสุดมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 64/2559 ปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แล้วแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯสืบแทน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้อธิบายคร่าวๆ ทำนองว่า คำสั่งปลดดังกล่าวไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความถูกผิด หรือเรื่องที่ถูกสอบสวนใดๆ แต่เนื่องจากถูกสั่งพักการทำหน้าที่เพื่อรอการสอบสวน แต่เพื่อให้การบริหารราชการในช่วงสำคัญต้องเดินหน้าต่อไป ตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงมีความสำคัญจึงต้องมีคนมาดำรงตำแหน่ง ความหมายก็น่าจะประมาณนี้แหละ

ดังนั้น ก็ถือว่าเป็นการเตรียมพร้อม เตรียมรับพระราชพิธีสำคัญ เพื่อให้การบริหารราชการเดินหน้าต่อไปแบบไม่สะดุด และให้ทุกคนได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด!
กำลังโหลดความคิดเห็น