“ประวิตร” แจงเหตุ “ผ่องพรรณ” ใช้เครื่องบิน ทอ. ไม่ใช่วัฒนธรรมองค์กร เผย “ปรีชา” ขอใช้เองแต่ไม่ได้เดินทางไปด้วย สั่ง ผบ.ตร.ล่าฆาตกรต่อเนื่อง เผย NGO เข้าพบคุยเรื่องการทำประมง-การค้ามนุษย์ คาดประเมินรอบหน้าผลออกมาดีขึ้น รับปีนี้น้ำมาก นายกฯเตรียมการดูแลมาตลอด ขอไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมสั่งเหล่าทัพช่วย ปชช.
วันนี้ (10 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 ต.ค. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สรุปเรื่องร้องเรียนนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา อดีตนายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ภริยาของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม โดยให้เหตุผลการใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศว่าไม่ผิด เพราะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรนั้นว่า จะไปบอกว่าเป็นเรื่องวัฒนธรรมองค์กรนั้นตนมองว่าไม่ใช่ แต่เรื่องนี้ทางกระทรวงกลาโหมได้ทำเรื่องขอใช้เครื่องบินไปที่กองทัพอากาศว่า พล.อ.ปรีชาซึ่งเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นจะขอใช้เดินทาง แต่วันนั้น พล.อ.ปรีชาเดินทางไปไม่ได้จึงได้มอบหมายคนไปแทน เรื่องนี้ก็เท่านี้ซึ่งไม่ได้มีอะไร
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องในช่วงนี้ว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รีบดำเนินการเรื่องนี้เพื่อหาตัวคนทำผิด แต่ที่เจ้าหน้าที่ได้ตัวมาตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าใช่คนร้ายตัวจริงหรือไม่ แต่พบว่าเป็นคนที่อยู่ในกล้องวงจรปิดซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้หยุดดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ชัดเจน อีกทั้งในขณะนี้มีการใช้วิธีทางนิติวิทยาศาสตร์คือการนำดีเอ็นเอไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นของใคร คาดว่าจะมีความชัดเจนต่อไป ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงาน
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการต้อนรับนายสตีฟ เทรนต์ ผู้อำนวยการบริหารของสถาบันความยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation) ที่เดินทางมาขอเข้าพบว่า นายสตีฟ เทรนต์ เป็นเอ็นจีโอที่ดูเรื่องการทำประมง และการค้ามนุษย์ อีกทั้งยังเป็นคนที่รายงานว่าที่ผ่านมาไทยเคยดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นไม่เรียบร้อย การเข้าพบในวันนี้จะทราบว่านายสตีฟ เทรนต์ ต้องการให้รัฐบาลทำอะไรบ้าง ที่ผ่านมาถือว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ การทำประมงผิดกฎหมายและการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนได้ดีมาก จนเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ รวมทั้งนายสตีฟ เทรนต์ บอกกับตนว่าจะให้ไทยเป็นตัวอย่างการแก้ไขปัญหาและให้ประเทศอื่นเข้ามาดูงานด้วย
เมื่อถามว่าเรื่องการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมายจะมีการประเมินการแก้ไขปัญหาของไทยอีกครั้งเมื่อไหร่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คาดว่าเป็นเดือน ม.ค. 2560 ซึ่งตนคิดว่าผลออกมาน่าจะดีขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) การสร้างการรับรู้อย่างดีต่อประชาชนโดยชี้แจงผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติทุกวันศุกร์
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาน้ำท่วมในช่วงนี้ว่า ปีนี้ถือว่ามีน้ำมาก โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการมาตลอดให้เตรียมการดูแลเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะการผันน้ำและการเก็บน้ำว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยได้ขุดแก้มลิง เพื่อกักเก็บน้ำทุกพื้นที่ และนายกรัฐมนตรียังใช้งบประมาณเตรียมการมาตลอด ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าปีนี้น้ำมีมาก โดยเฉพาะในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และเขื่อนพระรามหก เนื่องจากมีการผันน้ำลงมาที่จ.พระนครศรีอยุธยา 2,000 กว่าลูกบาศก์เมตร ถ้าเป็นในอดีตในพื้นที่ดังกล่าวก็น้ำท่วมไปหมดแล้ว แต่ตอนนี้พยายามกระจายน้ำและดำเนินการทุกอย่างที่จะให้เดือดร้อนลงมาถึง กทม.
“ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่โดยเฉพาะ ทั้งกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ส่วนกระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพจัดกำลังพลไปช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ โดยกระจายกำลังและเตรียมการ ซึ่งผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกคนได้เตรียมการมานานแล้ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม เพราะเรารู้ตัว เนื่องจากฝนตกมากและติดต่อกันมาตลอด เราพยายามทำให้ดีที่สุด ถ้านายกรัฐมนตรีไม่เตรียมการตั้งแต่ช่วงแรกที่น้ำอยู่ทางตอนเหนือ ตอนนี้ก็ท่วมไปหมดแล้ว” พล.อ.ประวิตรกล่าว