สะเก็ดไฟ
ว่อนเเรงทวนกระเเสน้ำท่วมฝนตกหนักนาทีนี้ ไม่มีใครเกินพี่ใหญ่ค่ายบูรพาพยัคฆ์ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เเอนด์ ก๊วนฮาวาย
ออกเเนวตั้งตัวไม่ติด ชนิดหนอนไชเจาะขั้วกระดูก ถูกเเฉเอกสารว่อนสื่อโซเชียลมีเดีย อัปเดตนาทีต่อนาที กรณียกคณะ 38 หน่อ ไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-สหรัฐฯ ที่มลรัฐฮาวาย ถิ่นอะเมริกันครับท่าน!
มีสื่อขุดข้อมูลจากเว็บไซต์ของรัฐบาลเอง มาต่อยอดสุมไฟไล่บี้ เริ่มที่เรื่องอาหารการกินในเมนู พอเพียงมาก อาทิ “คาเวียร์” ยังไม่ทันที่ “บิ๊กป้อม” จะเคลียร์ว่ากินเเค่ก๋วยเตี๋ยวเรียบง่าย ไม่ใช่คาเวียร์ เอกสารฉบับร้อนฉ่ากว่าเดิม กลับปลิวว่อนซ้ำเติมวุ่น จากต้นขั้วของเพจเฟซบุ๊ก “หยุดดัดจริตประเทศไทย” เผยเเพร่รายละเอียดเมนูอาหารถี่ยิบ รวมถึงรายชื่อผู้ร่วมคณะ 38 คนขาขึ้น และรวมรายชื่อบุคคลร่วมทริปขาล่องอีกสามรายว่อนเน็ต ตบหน้าคนปากเเข็งดังฉาด
ไม่ต้องถามทำไมก่อนหน้านี้ ท่านรองฯ ยืนยันถ้าเปิดเผยชื่อคนร่วมทริป จะกระทบความมั่นคง ตรงนี้ “บิ๊กป้อม” ไม่ได้โกหก เมื่อไล่รายชื่อไปถึงลำดับที่ 20 ปรากฏชื่อหรา พ.ต.หญิง ชลรัศมี งาทวีสุข ผู้ประกาศข่าวสาวสวย ที่ในสังคมรู้กันดีว่าบิ๊กป้อม และ พ.ต.หญิง ชลรัศมี มีความสัมพันธ์แบบไม่ธรรมดา
ยิ่งนำไปล้อกับข้อมูลของ “สำนักข่าวอิศรา” ล่าสุด บอกว่าปีนี้เป็นปีทองของนักข่าวสาว เปิด 2 บริษัท กวาดเงินกวาดทองไป 34 ล้านบาท กระทั่งเกิดรายการคุณขอมา ให้หยุดเผยแพร่บทความดังกล่าว มันก็ยิ่งคันจมูกเข้าไปใหญ่
ต่อไปนี้ปฏิบัติการกวาดล้างไล่บี้-เชือดนักเลือกตั้งในคดีส่อโกงต่างๆ นานา ที่องค์กรอิสระในยุค คสช.กำลังใส่เกียร์ 5 จะเดินหน้าต่ออย่างไร ทั้งเรื่องยึดทรัพย์จำนำข้าว อดีตนายกฯ ปูสุดสวย คดีอดีต 40 ส.ส.ค่ายนายใหญ่ ลงแขกกันชง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยเปลี่ยว หรือปฏิบัติการถอนประกัน “ตู่-เต้น” ในคดีทางการเมือง จะออกแนวว่าเขาอิเหนาเป็นเองหรือไม่นั้นน่าคิด และตั้งคำถามในระนาบเดียวกันถึงปมจริยธรรม และมาตรฐานกระบวนการตาชั่งไทย
ถึงแม้เจ้าตัว “ชลรัศมี” รีบมาบอกปัดผ่านโซเชียลฯ รวมถึงต้นสังกัดจะออกมาเเถลงข่าวด่วนใหญ่โต โต้ชัด วันที่ 29-30 ก.ย. ช่วงที่คณะฮาวายส่ายสะโพกโยกย้ายไป ผู้ประกาศข่าวสาวยังจัดรายการข่าวอยู่ที่ไทยแลนด์แดนสมายล์ ไม่ได้นั่งเรือบินร่วมทริปยกก๊วนป่วนฮาวายตามเอกสารจากเพจ “หยุดดัดจริตประเทศไทย” กล่าวอ้าง และเตรียมรวมข้อมูลยื่น ปอท.ตรวจสอบเพจดังกล่าวตามขั้นตอนว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเอกสารเก๊ทำเหมือนหรือไม่
ถึงเเม้จะเคลียร์ได้สะอาดสะอ้าน แต่ประเด็นหลักไม่ได้อยู่แค่ “ชลรัศมี” ร่วมทริปสุดหรูหรือไม่เท่านั้น แค่มีชื่อร่วมทริปออกมา คนก็ตั้งข้อสงสัยแล้วว่าไปทำไม มีหน้าที่อะไร
หลักๆ อยู่ที่ชาวบ้านเขาน้อยอกน้อยใจกัน คือ ท่านเล่นใช้งบประมาณ 20 กว่าล้าน ยกคณะกินหรูอยู่สบาย ทั้งๆ ที่ท่านเองบอกว่า นโยบายรัฐบาลนี้จะต้องทำให้ประเทศเกิดการปฏิรูปไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
ในนาทีที่ กทม.กำลังฝนตกกระหน่ำ บ้านเรือนพี่น้องในหลายจังหวัดกำลังจมน้ำ บางครอบครัวนั่งล้อมวงกินข้าว และนั่งถ่ายทุกข์อยู่บนหลังคา มันเหมาะสมเเล้วหรือไม่ ที่ส่ง รองโฆษกกระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ออกมาใช้สีข้างถู ตอบคำถามสื่อปาวๆ ถึงเรื่องความคุ้มค่าเที่ยวบินสุดหรูว่า ถ้าจะให้ประเมิน คงประเมินไม่ได้ เรื่องความมั่นคงวัดเรื่องผลกำไร และประเมินค่าไม่ได้
อยากถามว่า มีคนที่พูดจาและชี้แจงได้ดี หรือไม่ทำร้ายจิตใจชาวบ้านได้มากกว่านี้อีกไหม?
เพราะหากชาวบ้านย้อนถามบ้างว่า ภาษาที่จ่ายให้รัฐเป็นของใคร มีค่าเท่าไหร่ รัฐบาลใช้สิ่งใดประเมินค่าความเดือนร้อนขณะนี้ของพวกเขาอย่างไร ถ้าตอบไม่ได้มันจะเสียหมาเอานะท่าน! ยังมีเผือกร้อนก้อนอื่นๆให้ตามล้างตามเช็ดอีกอื้อซ่า
พอเรื่องโดนร้องเข้าไปที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ผู้ว่าการ สตง.ตีตราประทับเร็วรี่ว่าไม่ปรากฏผู้ประกาศข่าวสาวร่วมทริป เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบเรื่องทุจริต ยังไม่พบความผิดปกติการใช้งบประมาณเที่ยวบินหรูดังกล่าว 11 ต.ค.นี้ จะรู้ผลสอบเป็นทางการ
อีกประเด็นน่าสนใจในเสียงนินทาหึ่งยิ่งกว่าผึ้งตอมตามท้องเรื่องชอนไชกันเองภายใต้ขั้วอำนาจ อันแข็งแกร่งของรัฐบาล หลายฝ่ายวิเคาระห์ว่า ข้อมูลเชิงลึกชั้นลับถึงขนาดรายชื่อผู้ร่วมเที่ยวบินที่ล้วนเป็นบุคคลสำคัญระดับประเทศ หรือแม้กระทั่งจังหวะจะโคนการแฉข้อมูลลงล็อกหักคอขนาดนี้
เกลือต้องเป็นหนอนชัดๆ!
ป่านนี้ “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม “น้องเลิฟนายกฯ” แอนด์ภรรยากับลูกชายหัวเเก้วหัวแหวน คงนั่งน้ำตาไหลขอบอกขอบใจพี่ใหญ่ป้อมอย่างสุดซึ้ง ชนิดไม่รู้จะหาของขวัญชิ้นใดมากราบกรานให้เหมาะสมกับบุญคุณครั้งนี้ ที่พี่อุตส่าห์รับตำแหน่งกำนันตำบลกระสุนตกไปแทน
เป็นจังหวะเดียวกันอย่างบังเอิญ ที่ “บิ๊กตู่” ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำชับเด็กๆ ให้รู้ทันความอันตรายของโลกโซเชียลฯ ในงาน “เยาวชนอาเซียนเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระยุคลบาท” ขอให้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ให้เกิดการเรียนรู้ต่อเนื่อง ไม่ใช่เอะอะก็กูเกิล ยูทิวบ์ คนรุ่นใหม่ต้องสร้างกระบวนการรับรู้ใหม่โดยไม่ทิ้งของเก่า ทั้งเรื่องปกครอง เเละการบริหารราชการเเผ่นดิน จะส่งต่อข้อมูลอะไรไม่ใช่รับมาเเล้วส่งต่อโดยไม่คิด สิ่งเหล่านี้มันเสียหายไปถึงเวทีโลก
แนะนำอย่างหวังดีว่า อย่าประมาท กระแสสังคมลุกลามถึงขั้นรัฐบาลล้มได้ จึงต้องรีบทำความดีตามสเต็ปคนดีกลบกระเเสข่าวเน่าโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นอาการของรัฐบาลเองจะยิ่งทรุด
จะใช้วิธีใดๆ ก็ได้ทั้งนั้น แต่ขอร้องอย่าให้เกิดปฏิบัติการหนอนฝังในไล่เอาคืนกันเองเเล้วกัน มันจะอายประชาชี!
ว่อนเเรงทวนกระเเสน้ำท่วมฝนตกหนักนาทีนี้ ไม่มีใครเกินพี่ใหญ่ค่ายบูรพาพยัคฆ์ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เเอนด์ ก๊วนฮาวาย
ออกเเนวตั้งตัวไม่ติด ชนิดหนอนไชเจาะขั้วกระดูก ถูกเเฉเอกสารว่อนสื่อโซเชียลมีเดีย อัปเดตนาทีต่อนาที กรณียกคณะ 38 หน่อ ไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-สหรัฐฯ ที่มลรัฐฮาวาย ถิ่นอะเมริกันครับท่าน!
มีสื่อขุดข้อมูลจากเว็บไซต์ของรัฐบาลเอง มาต่อยอดสุมไฟไล่บี้ เริ่มที่เรื่องอาหารการกินในเมนู พอเพียงมาก อาทิ “คาเวียร์” ยังไม่ทันที่ “บิ๊กป้อม” จะเคลียร์ว่ากินเเค่ก๋วยเตี๋ยวเรียบง่าย ไม่ใช่คาเวียร์ เอกสารฉบับร้อนฉ่ากว่าเดิม กลับปลิวว่อนซ้ำเติมวุ่น จากต้นขั้วของเพจเฟซบุ๊ก “หยุดดัดจริตประเทศไทย” เผยเเพร่รายละเอียดเมนูอาหารถี่ยิบ รวมถึงรายชื่อผู้ร่วมคณะ 38 คนขาขึ้น และรวมรายชื่อบุคคลร่วมทริปขาล่องอีกสามรายว่อนเน็ต ตบหน้าคนปากเเข็งดังฉาด
ไม่ต้องถามทำไมก่อนหน้านี้ ท่านรองฯ ยืนยันถ้าเปิดเผยชื่อคนร่วมทริป จะกระทบความมั่นคง ตรงนี้ “บิ๊กป้อม” ไม่ได้โกหก เมื่อไล่รายชื่อไปถึงลำดับที่ 20 ปรากฏชื่อหรา พ.ต.หญิง ชลรัศมี งาทวีสุข ผู้ประกาศข่าวสาวสวย ที่ในสังคมรู้กันดีว่าบิ๊กป้อม และ พ.ต.หญิง ชลรัศมี มีความสัมพันธ์แบบไม่ธรรมดา
ยิ่งนำไปล้อกับข้อมูลของ “สำนักข่าวอิศรา” ล่าสุด บอกว่าปีนี้เป็นปีทองของนักข่าวสาว เปิด 2 บริษัท กวาดเงินกวาดทองไป 34 ล้านบาท กระทั่งเกิดรายการคุณขอมา ให้หยุดเผยแพร่บทความดังกล่าว มันก็ยิ่งคันจมูกเข้าไปใหญ่
ต่อไปนี้ปฏิบัติการกวาดล้างไล่บี้-เชือดนักเลือกตั้งในคดีส่อโกงต่างๆ นานา ที่องค์กรอิสระในยุค คสช.กำลังใส่เกียร์ 5 จะเดินหน้าต่ออย่างไร ทั้งเรื่องยึดทรัพย์จำนำข้าว อดีตนายกฯ ปูสุดสวย คดีอดีต 40 ส.ส.ค่ายนายใหญ่ ลงแขกกันชง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยเปลี่ยว หรือปฏิบัติการถอนประกัน “ตู่-เต้น” ในคดีทางการเมือง จะออกแนวว่าเขาอิเหนาเป็นเองหรือไม่นั้นน่าคิด และตั้งคำถามในระนาบเดียวกันถึงปมจริยธรรม และมาตรฐานกระบวนการตาชั่งไทย
ถึงแม้เจ้าตัว “ชลรัศมี” รีบมาบอกปัดผ่านโซเชียลฯ รวมถึงต้นสังกัดจะออกมาเเถลงข่าวด่วนใหญ่โต โต้ชัด วันที่ 29-30 ก.ย. ช่วงที่คณะฮาวายส่ายสะโพกโยกย้ายไป ผู้ประกาศข่าวสาวยังจัดรายการข่าวอยู่ที่ไทยแลนด์แดนสมายล์ ไม่ได้นั่งเรือบินร่วมทริปยกก๊วนป่วนฮาวายตามเอกสารจากเพจ “หยุดดัดจริตประเทศไทย” กล่าวอ้าง และเตรียมรวมข้อมูลยื่น ปอท.ตรวจสอบเพจดังกล่าวตามขั้นตอนว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเอกสารเก๊ทำเหมือนหรือไม่
ถึงเเม้จะเคลียร์ได้สะอาดสะอ้าน แต่ประเด็นหลักไม่ได้อยู่แค่ “ชลรัศมี” ร่วมทริปสุดหรูหรือไม่เท่านั้น แค่มีชื่อร่วมทริปออกมา คนก็ตั้งข้อสงสัยแล้วว่าไปทำไม มีหน้าที่อะไร
หลักๆ อยู่ที่ชาวบ้านเขาน้อยอกน้อยใจกัน คือ ท่านเล่นใช้งบประมาณ 20 กว่าล้าน ยกคณะกินหรูอยู่สบาย ทั้งๆ ที่ท่านเองบอกว่า นโยบายรัฐบาลนี้จะต้องทำให้ประเทศเกิดการปฏิรูปไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
ในนาทีที่ กทม.กำลังฝนตกกระหน่ำ บ้านเรือนพี่น้องในหลายจังหวัดกำลังจมน้ำ บางครอบครัวนั่งล้อมวงกินข้าว และนั่งถ่ายทุกข์อยู่บนหลังคา มันเหมาะสมเเล้วหรือไม่ ที่ส่ง รองโฆษกกระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ออกมาใช้สีข้างถู ตอบคำถามสื่อปาวๆ ถึงเรื่องความคุ้มค่าเที่ยวบินสุดหรูว่า ถ้าจะให้ประเมิน คงประเมินไม่ได้ เรื่องความมั่นคงวัดเรื่องผลกำไร และประเมินค่าไม่ได้
อยากถามว่า มีคนที่พูดจาและชี้แจงได้ดี หรือไม่ทำร้ายจิตใจชาวบ้านได้มากกว่านี้อีกไหม?
เพราะหากชาวบ้านย้อนถามบ้างว่า ภาษาที่จ่ายให้รัฐเป็นของใคร มีค่าเท่าไหร่ รัฐบาลใช้สิ่งใดประเมินค่าความเดือนร้อนขณะนี้ของพวกเขาอย่างไร ถ้าตอบไม่ได้มันจะเสียหมาเอานะท่าน! ยังมีเผือกร้อนก้อนอื่นๆให้ตามล้างตามเช็ดอีกอื้อซ่า
พอเรื่องโดนร้องเข้าไปที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ผู้ว่าการ สตง.ตีตราประทับเร็วรี่ว่าไม่ปรากฏผู้ประกาศข่าวสาวร่วมทริป เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบเรื่องทุจริต ยังไม่พบความผิดปกติการใช้งบประมาณเที่ยวบินหรูดังกล่าว 11 ต.ค.นี้ จะรู้ผลสอบเป็นทางการ
อีกประเด็นน่าสนใจในเสียงนินทาหึ่งยิ่งกว่าผึ้งตอมตามท้องเรื่องชอนไชกันเองภายใต้ขั้วอำนาจ อันแข็งแกร่งของรัฐบาล หลายฝ่ายวิเคาระห์ว่า ข้อมูลเชิงลึกชั้นลับถึงขนาดรายชื่อผู้ร่วมเที่ยวบินที่ล้วนเป็นบุคคลสำคัญระดับประเทศ หรือแม้กระทั่งจังหวะจะโคนการแฉข้อมูลลงล็อกหักคอขนาดนี้
เกลือต้องเป็นหนอนชัดๆ!
ป่านนี้ “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม “น้องเลิฟนายกฯ” แอนด์ภรรยากับลูกชายหัวเเก้วหัวแหวน คงนั่งน้ำตาไหลขอบอกขอบใจพี่ใหญ่ป้อมอย่างสุดซึ้ง ชนิดไม่รู้จะหาของขวัญชิ้นใดมากราบกรานให้เหมาะสมกับบุญคุณครั้งนี้ ที่พี่อุตส่าห์รับตำแหน่งกำนันตำบลกระสุนตกไปแทน
เป็นจังหวะเดียวกันอย่างบังเอิญ ที่ “บิ๊กตู่” ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำชับเด็กๆ ให้รู้ทันความอันตรายของโลกโซเชียลฯ ในงาน “เยาวชนอาเซียนเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระยุคลบาท” ขอให้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ให้เกิดการเรียนรู้ต่อเนื่อง ไม่ใช่เอะอะก็กูเกิล ยูทิวบ์ คนรุ่นใหม่ต้องสร้างกระบวนการรับรู้ใหม่โดยไม่ทิ้งของเก่า ทั้งเรื่องปกครอง เเละการบริหารราชการเเผ่นดิน จะส่งต่อข้อมูลอะไรไม่ใช่รับมาเเล้วส่งต่อโดยไม่คิด สิ่งเหล่านี้มันเสียหายไปถึงเวทีโลก
แนะนำอย่างหวังดีว่า อย่าประมาท กระแสสังคมลุกลามถึงขั้นรัฐบาลล้มได้ จึงต้องรีบทำความดีตามสเต็ปคนดีกลบกระเเสข่าวเน่าโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นอาการของรัฐบาลเองจะยิ่งทรุด
จะใช้วิธีใดๆ ก็ได้ทั้งนั้น แต่ขอร้องอย่าให้เกิดปฏิบัติการหนอนฝังในไล่เอาคืนกันเองเเล้วกัน มันจะอายประชาชี!