“ประยุทธ์” เตรียมลงพื้นที่อยุธยา - ชัยนาท ตรวจเยี่ยมน้ำท่วม ฟังบรรยายสรุป มอบถุงยังชีพ สั่งจัดระเบียบ ความสะอาดทั่วประเทศ ยกปทุมฯโมเดล เป็นตัวอย่าง สั่งทบทวนค่าปรับกันหนีชิ่งทุนรัฐ แย้มนำเด็กทุนรับราชการ ยกเป็นกำลังหลักไทยแลนด์ 4.0
วันนี้ (4 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในวันพรุ่งนี้ (5 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ ชัยนาท โดยนายกฯและคณะจะออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 12.00 น. โดยจะไปที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จังหวัดแรกเพื่อฟังรายงานสรุปการบริหารจัดการน้ำ จากผู้ว่าราชการจังหวัด และมอบถุงยังชีพประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 500 ราย และเดินทางต่อไปมอบถุงยังชีพยังวัดโบสถ์ อ.เสนา ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย จากนั้นจะเดินทางต่อไปยัง จ.ชัยนาท เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งรับฟังรายงานสถานการณ์น้ำ และแผนการป้องกันจากอธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ต่อจากนั้น นายกฯและคณะจะเดินทางไปสำรวจสถานการณ์น้ำ ที่บริเวณสันเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท โดยจะเสร็จสิ้นภารกิจเวลาประมาณ 18.00 น.
พ.อ.หญิง ทักษดา กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบความสะอาดทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด โดยเฉพาะวัดมงคลบพิตร จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เป็นมรดกโลก ซึ่งขณะนี้มีปัญหาเรื่องผู้ค้าสินค้า จัดวางสินค้าเต็มพื้นที่บริเวณด้านหน้าทางเข้า ส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกกับนักท่องเที่ยว กีดกันทางเท้า รวมถึงทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่หายไป โดย นายกฯ ระบุว่า เพื่อให้สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มีความสะดวก สะอาด น่ามอง เป็นที่สนใจของชาวต่างชาติ จึงอยากให้มีการจัดระเบียบเรื่องเหล่านี้ โดยจะต้องให้มีการพูดคุยกับผู้ค้าเหล่านี้ ว่า จะหาที่ค้าขายสำรองทดแทนให้ได้หรือไม่ ซึ่งนายกฯได้ยกตัวอย่าง เช่น ปทุมธานีโมเดล ที่มีการจัดระเบียบที่พักอาศัย ที่บริเวณคลองรังสิต ซึ่งชาวบ้านได้สร้างที่พักอาศัยล้ำเข้าลำคลอง รัฐบาลจึงแก้ไขด้วยการปรับพื้นที่สาธารณะบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต ให้เป็นที่ราชพัสดุ และให้ชาวบ้านจากคลองรังสิตสามารถอพยพย้ายผู้คนเข้าไปอยู่ ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาโดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งนี้ นายกฯจึงอยากให้ยกปทุมธานีโมเดล เป็นตัวอย่างในการจัดระเบียบทั่วประเทศ รวมทั้งให้ดูตัวอย่างจากต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ทีมีการจัดระเบียบให้ผู้ค้าและผู้ขายพบกันครึ่งทาง และให้อำนวยความสะดวกในพื้นที่จอดรถ เพื่อสร้างความสะดวกในการซื้อขาย
พ.อ.หญิง ทักษดา กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการทุกกระทรวงดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังนักเรียน นักศึกษา ที่ได้รับทุนการศึกษาของรัฐบาล ว่า ได้ไปทำอะไรอยู่ที่ไหน เนื่องจากกลุ่มนักเรียนทุนดังกล่าวจะเป็นแรงงานกำลังหลักในการผลักดันให้ประเทศไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างมั่นคง และควรนำกลุ่มเหล่านี้กลับมาสู่ระบบราชการ เพื่อจะได้มีการพิจารณาค่าจ้าง ค่าตอบแทน ของบุคคลเหล่านี้ตามศักยภาพที่สูงขึ้นด้วย
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯยังสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปกำหนดหลักเกณฑ์ค่าปรับใหม่ ดำเนินการกับผู้หนีทุนรัฐในการศึกษาในต่างประเทศ เพื่อทำให้รู้สึกว่าคนเหล่านี้ต้องกลับมาใช้ทุนให้กับรัฐก่อน มิฉะนั้น มันจะกลายเป็นเรื่องสมองไหล อุตส่าห์ให้เงินไปแล้ว แต่สุดท้ายมาถีบหัวส่ง
