ปลัดกระทรวงกลาโหม ประธานพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการ ผบ.สส.-ผบ.ทบ.ร่วม ยันพร้อมสนับสนุนงานกองทัพเมื่อมีโอกาส ฝากรักษาเกียรติอย่างเต็มความสามารถ คิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ด้านว่าที่ผู้บัญชาการกองทัพบก ชูทำงานปรากฏเป็นผลงานน่ายกย่อง เป็นแบบอย่างให้สานต่อ
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการนายทหารชั้นนายพลที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2559 พร้อมด้วย พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และนายทหารที่เกษียณอายุราชการในปีนี้รวมจำนวน 387 คน โดยในช่วงเช้ามีพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พิธีเทิดเกียรติ มอบกระบี่ และการสวนสนามเทิดเกียรติจากกองสวนพันผสม จำนวน 16 กองพัน ประกอบด้วยกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากหน่วยต่างๆ
ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วย ผบ.ทบ.กล่าวสดุดีตอนหนึ่งว่า ในวาระที่ทุกคนจะต้องพ้นภาระหน้าที่จากกองทัพไปตามวิถีทางของการรับราชการ ในนามของกองทัพบกขอถือโอกาสนี้แสดงออกซึ่งมุทิตาจิตด้วยความเคารพเป็นอย่างยิ่ง ตลอดการรับราชการของทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่สมกับเป็นชายชาติทหาร ดูแลปกป้องประเทศชาติและประชาชน ได้สร้างคุณประโยชน์ส่วนรวมและทำให้กองทัพมั่นคงเข้มแข็ง มีเกียรติและศักดิ์ศรีมาจนทุกวันนี้ ซึ่งจากปณิธานการทำงานปรากฏเป็นผลงานที่น่ายกย่อง นับเป็นแบบอย่างและเป็นแรงผลักดัน ให้นายทหารรุ่นหลังได้สานต่อ มีการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางของทหารอาชีพ เพื่อความมั่นคงและความสงบสุขของประเทศชาติและประชาชน แม้ระยะเวลาการรับราชการจะสิ้นสุดลง แต่เชื่อมั่นว่าวิถีชีวิตความเป็นทหารหาญจะยังคงอยู่ในสายเลือดของทุกคนไม่เสื่อมคลาย ทั้งนี้ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าพวกเราจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ เป็นทหารของชาติที่พร้อมอุทิศเสียสละตนในการปฏิบัติหน้าที่ โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักสำคัญ
ขณะที่ พล.อ.ปรีชากล่าวอำลาเนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการว่า ตลอดอายุราชการที่ผ่านมา นายทหารทุกคนได้ทำหน้าที่ด้วยความภาคภูมิใจ มุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มความสามารถ เพื่อแก้ปัญหาที่จะกระทบต่อความมั่นคงของชาติ แม้จะถึงเวลาเกษียณอายุราชการแล้วพวกเรายืนยันว่าพร้อมอุทิศตนสนับสนุนการดำเนินงานของกองทัพเมื่อมีโอกาส และขอฝากกำลังพลที่ยังรับราชการอยู่ ให้ดูแลรักษาเกียรติยศของทหารอย่างเต็มความสามารถ คิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรักและสามัคคีเพื่อประโยชน์ของประเทศ รวมทั้งพัฒนากองทัพให้เจริญก้าวหน้าในฐานะกำลังหลักด้านความมั่นคงสืบไป