“ประวิตร” ประชุมสภากลาโหมนัดสุดท้ายก่อน ผบ.เหล่าทัพเกษียณ เผยขอบคุณช่วยงาน รบ.ทุกอย่าง 29 ก.ย.เตรียมบินประชุม รมว.กลาโหมที่ฮาวาย ชี้สื่อคาดเดาชื่อ ครม.ส่วนหน้าแก้ไฟใต้กันไปเอง ยังอุบไต๋ อ้างความจำไม่ค่อยดี ชี้จบแล้วเรื่องลูก “ปรีชา” รับเหมางาน ทบ. ยันตามหลักเกณฑ์ ลั่นไม่สะเทือนถึง “ประยุทธ์” ไม่กลายเป็นจุดอ่อน โต้ไม่เกี่ยวกับการไม่พอใจโยกย้าย ภาพรวมยังดีอยู่
วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายก่อนการประชุมสภากลาโหม โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมประชุมว่า ถือเป็นการประชุมนัดสุดท้ายก่อนที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพจะเกษียณอายุราชการ ไม่ได้มีวาระสำคัญอะไรเป็นพิเศษ แต่จะเป็นเรื่องการขอบคุณผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ช่วยดูแลกำลังพลให้มีความเรียบร้อย และช่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล โดยการทำงาน 1 ปีที่ผ่านมากับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ตนมีความประทับใจทุกอย่าง เพราะสั่งการอะไรลงไปทางผู้บัญชาการเหล่าทัพก็ดำเนินการให้เป็นอย่างดีและไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 ก.ย. 59 - 2 ต.ค. 59 ตนพร้อมคณะจะเดินทางไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนและคู่เจรจา (เอดีเอ็มเอ็ม พลัส) ที่รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งไปตรวจเยี่ยมเรือรบของกองทัพสหรัฐอเมริกาด้วย
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งผู้แทนพิเศษของรัฐบาลที่เป็นทีมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนหน้าทำหน้าที่ประสานงานการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า มีการคาดเดาชื่อกันไปซึ่งยังไม่มีอะไร เพราะสื่อก็คาดเดาและแต่งตั้งให้ทุกวัน สำหรับหัวหน้าทีมจะต้องมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยหรือไม่ ก็คงจะเป็นแบบนั้น แต่จะมีใครบ้างตนยังไม่ทราบ ส่วนผู้บัญชาการเหล่าทัพที่เกษียณอายุราชการ ยังมีหน้าที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อยู่ ต้องดูว่ามีตำแหน่งอะไรที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะไม่ใช่แต่งตั้งได้เรื่อยเปื่อย สำหรับเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีนั้นต้องถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม เหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าทีม ครม.ส่วนหน้าดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ เพราะเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบ และจำไม่ได้เพราะความจำตนไม่ค่อยดี
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีบุตรชายของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าไปรับเหมาก่อสร้างในโครงการของกองทัพภาคที่ 3 ว่า เรื่องนี้จบไปแล้ว ส่วนเรื่องเอกสารการชี้แจงต่างๆ ขอให้ไปขอเอกสารที่กองทัพภาคที่ 3 แต่ตอนนี้ตนเห็นว่าก็มีการเปิดเผยกันไปหมดแล้ว เพราะทุกอย่างไม่ได้ทำแบบไม่มีหลักเกณฑ์ เนื่องจากต้องทำตามระเบียบวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง ที่ผ่านมาตนเจอ พล.อ.ปรีชาก็บอกว่าไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัทของบุตรชาย เพราะเมื่อบุตรชายอยากทำบริษัทก็ให้ทำ ส่วนที่มองว่าสาเหตุที่ถูกจับตามองเพราะนามสกุลจันทร์โอชานั้นก็อาจเป็นไปได้
เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะทำให้เป็นจุดสะเทือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คิดว่าไม่สะเทือน เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ทำงานมามากและทุกอย่างก็เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมหาศาล อีกทั้งตอนนี้ก็ยังไปทำหน้าที่ในที่ประชุมสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา ทุกอย่างก็ดีหมด ทุกคนในรัฐบาลตั้งใจทำงานไม่ใช่เฉพาะแต่ทำงานให้แก่นายกรัฐมนตรีคนเดียว แต่ทำงานให้ประชาชน เพราะเมื่อเข้ามาแล้วต้องทำงานให้ประชาชนและประเทศชาติ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาเพื่อมาทำให้ส่วนร่วม มีหลายคนที่ไม่อยากมา แต่ก็อาสาเข้ามา เมื่อมาแล้วก็ตั้งใจทำงาน ดังนั้นทุกคนต้องตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทุกอย่างให้เต็มขีดความสามารถ
เมื่อถามต่อว่าคะแนนนิยมนายกรัฐมนตรีกำลังพุ่งเรื่องนี้จะกลายเป็นจุดอ่อนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี อย่าคิดมาก ส่วนที่โซเชียลยังเผยแพร่เรื่องบุตรชายและภริยาของ พล.อ.ปรีชามากอยู่นั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะยังมีฝ่ายตรงข้าม ไม่ใช่มีคนรักทั้งหมด
เมื่อถามว่ากรณีที่มีเอกสารภายในหลุดออกมาเผยแพร่ เป็นเพราะมีปัญหาภายในหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ขอให้ไปสอบถามกันเอง แต่เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนที่ไม่พอใจเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารที่ผ่านมา ส่วนจะเป็นปัญหาภายในสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้เข้าไปอยู่ในสมาคมฯ ด้วย แต่ภาพรวมทั้งหมดทุกอย่างยังดีอยู่