xs
xsm
sm
md
lg

พท.-ภท.เมินร่วมวง กม.ลูก กรธ.“นิกร” ค้าน กกต.วินิจฉัยนโยบาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สัมมนารับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายลูก พรรคการเมือง และ เลือกตั้ง ส.ส. เชิญ 50 พรรคร่วม ไร้เงาเพื่อไทย - ภูมิใจไทย กรรมการการเลือกตั้ง แจงเขียนให้สอดคล้องร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมชงแนวทางใหม่ ให้เลื่อนวันโหวตเองได้ ด้าน “นิกร” ค้านวินิจฉัยนโยบายพรรค ชี้ ยุบพรรคต้องกำหนดความผิดให้ชัด ส่วนพรรคเล็กโอดขึ้นค่าสมัคร ติงกำหนดพื้นที่ติดป้ายหาเสียงอาจทำผู้ใช้สิทธิลด

วันนี้ (28 ก.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.00 น. คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดสัมมนา เรื่อง การรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ ร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีตัวแทนจากพรรคการเมืองเข้าร่วมประมาณ 50 พรรค เกือบทั้งหมดเป็นพรรคขนาดเล็ก พรรคขนาดกลาง มี นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคขนาดใหญ่ มี นายธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วม ไม่มีตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย และ พรรคภูมิใจไทย

โดย นายประวิช รัตนเพียร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม ชี้แจงถึงการเสนอร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ ว่า องค์ประกอบโครงร่างกฎหมาย สอดคล้องไปตามที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติกำหนด ขณะเดียวกัน ก็เสนอแนวทางใหม่ เช่น ขออำนาจให้ กกต. สามารถเลื่อนวันเลือกตั้งได้เอง เพื่อแก้ปัญหาจากที่เราเคยมีประสบการณ์ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ประติมากรรมที่แตะต้องไม่ได้ กกต. พร้อมรับฟังความเห็น

จากนั้นที่ประชุมจึงเปิดให้เสนอความเห็น โดย นายนิกร กล่าวว่า พรรคการเมืองต้องนำเสนอนโยบายได้ กกต. ไม่น่ามีความสามารถในการวินิจฉัยนโยบายจากพรรคการเมืองได้ แนวทางเรื่องนโยบายต้องอย่าลงรายละเอียด ส่วนเรื่องการยุบพรรคมีข้อสังเกตว่า จะกินความย้อนหลังหรือไม่ กฎหมายการยุบพรรคการเมืองควรกำหนดให้ชัดเฉพาะฐานความผิดที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดไว้ ส่วนที่เหลือก็ไม่มีรายละเอียดกำหนดถึงมาตการการช่วยเหลือพรรคการเมืองจาก กกต. แนวทางที่เสนอมา เช่น การกำหนดสถานที่ติดป้ายหาเสียงจึงดูจะกลายเป็นข้อจำกัดสำหรับพรรคการเมืองมากกว่า ด้าน นายประวิช ชี้แจงถึงการนำเสนอนโยบายว่า กกต. ไม่ได้เป็นผู้พิจารณาควบคุมการนำเสนอ เพียงแต่กำหนดให้ต้องแจ้ง กกต.เพื่อปิดประกาศให้สังคมรับทราบต่อไป

สำหรับตัวแทนจากพรรคขนาดเล็กส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาของกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ โดยเฉพาะการขึ้นค่าสมัครรับเลือกตั้งจาก 5,000 บาท เป็น 10,000 บาท การกำหนดพื้นที่ติดป้ายหาเสียง ที่อาจจะทำให้มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งลดลงได้ เนื่องจากไม่เห็นอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ยังวิจารณ์การทำงานของ กกต. ชุดปัจจุบันด้วยว่า บริหารจัดการไม่ดี ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งครั้งล่าสุดได้ และไม่สามารถนำเงินจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่














กำลังโหลดความคิดเห็น