“เจ๊สด” แนะกฎหมายลูกควรระบุให้ ส.ว.สายกลุ่มอาชีพต้องทำงานด้านนั้นๆ อย่างน้อย 10 ปีและมีการตรวจสอบ รายงานทรัพย์สิน รวมถึงพวกที่ คสช.เลือก ชี้ กกต.ต้องทำผลงานให้ประจักษ์ เซตซีโร่หรือไม่อยู่ที่ตัวเอง
วันนี้ (27 ก.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ของสำนักงาน กกต.ว่า การได้มาซึ่ง ส.ว.ตามที่ กกต.เสนอถือเป็นรูปแบบใหม่ ไม่เคยมีการเลือกแบบนี้มาก่อน สิ่งที่สำคัญในการเลือกตัวแทนจากกลุ่มอาชีพกว่า 20 กลุ่มนั้น คือ การตรวจสอบว่าผู้สมัครได้ประกอบอาชีพหรือทำงานด้านนั้นจริง โดยการเขียนในกฎหมายลูกอาจระบุเลยว่าต้องทำงานในด้านนั้นๆ อย่างน้อย 10 ปี และให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันตรวจสอบ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สมัครมาจากตัวแทนของพรรคการเมือง หรือทำให้ ส.ว.เป็นสภาผัวเมีย อีกทั้งควรให้รายงานบัญชีทรัพย์สินก่อนเข้ารับตำแหน่งย้อนหลัง 5 ปี และรายงานตอนออกจากตำแหน่งอีกครั้ง ซึ่งรวมถึง ส.ว.ที่มาจากคัดเลือกของ คสช.โดยตรงด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลเหล่านี้มาทำงานเพื่อประเทศ ไม่ได้มาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ส่วนการป้องกันการบล็อกโหวตหรือการจ้างสมัคร กกต.ต้องพิสูจน์ฝีมืออีกครั้งว่าจะสามารถป้องกันและปราบปรามการทุจริตในการได้มาซึ่ง ส.ว. และการเลือกตั้ง ส.ส.ได้หรือไม่
“กกต.ต้องทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์จนได้รับการยอมรับ เพราะเชื่อว่า หาก กกต.ชุดนี้ไม่ถูกเซ็ตซีโร่ไปก่อนคงสามารถปรับปรุงการทำงานในทางที่ดีขึ้นได้ การเปลี่ยนตัว กกต.จะไม่มีใครทำได้นอกจากทำตัวเอง หากเคลื่อนไหวจนทำให้องค์กรไม่นิ่งก็ยิ่งจะทำให้ถูกโจมตีได้ง่าย ดังนั้น ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อพยายามอย่าทำอะไรที่ขัดแย้งกับองค์กรอื่น ใครวิจารณ์มาก็น้อมรับ นำมาปรับปรุงแก้ไข เพราะบางทีคนเรามองตัวเองไม่เห็นแต่คนอื่นมองเห็น”