“ประยุทธ์” บินกลับถึงไทยหลังร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เผย มีโอกาสเล่าสถานกาณ์ไทยให้ผู้นำหลาย ๆ ประเทศ ยกไทยมีบทบาทเชื่อมระหว่างกลุ่ม จี77 กับ จี20 แจงเรื่องน้องชายก็ส่วนน้องชาย อย่าทำผิด กม. ย้อนเรื่องที่โจมตียังไม่รู้ว่าผิดหรือถูก ชี้ เขาคงไม่โง่แต่ไม่รับประกันแทน จะสอบก็สอบไป ยัน จนท. ช่วยเหลือน้ำท่วมทุกวัน ซัดคนนอกอย่าติให้มาก ไล่ดู 2 ปี รบ.ทำอะไรมาบ้าง
วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 06.30 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางถึงประเทศไทย ภายหลังการเดินทางกลับจากการร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ที่สหรัฐอเมริกา ว่า ในโอกาสที่ได้เข้าร่วมประชุมดังกล่าว ตนได้กล่าวถ้อยแถลงถึงการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้มีแรงกดดันจากสากลเข้าไปช่วยกันสนับสนุนในแต่ละประเทศที่เป็นสมาชิก เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
นายกฯ กล่าวว่า และในที่ประชุมกลุ่ม 77 ที่ตนเป็นประธานนั้น ก็ได้ขอบคุณและย้ำเรื่องการนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาสู่การปฏิบัติ ซึ่งมีหลายประเทศแล้วที่ได้นำไปใช้ และประเทศสมาชิกได้ขอบคุณประเทศไทยที่เผื่อแผ่แบ่งปันสิ่งที่เป็นของคนไทย ที่เขาเห็นคุณค่า ทำให้นำประเทศถึงขีดที่น่าพึงพอใจเพื่อการยกระดับ พัฒนาต่อไป โดยเฉพาะประเทศที่มีการพัฒนาน้อย บอกว่า กำลังใช้แนวทางดังกล่าวในการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน ม.ค. 60 จะได้ส่งต่อให้ประเทศเอกวาดอร์ได้เป็นประธานต่อจากประเทศไทย ขณะนี้ก็เตรียมการส่งต่อ เพื่อให้ขับเคลื่อนงานกันต่อไป โดยให้ประเทศสมาชิกเดินหน้าร่วมกับสหประชาชาติ โดยไทยมีบทบาทเป็นสะพานเชื่อม อย่างที่ได้เชื่อมระหว่างกลุ่ม จี77 กับ จี20 ซึ่งก็อยู่ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นประธานพอดี
นายกฯ กล่าวว่า “ในโอกาสนี้ได้พบปะกับผู้นำหลาย ๆ ประเทศ ทุกคนก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผมได้มีโอกาสเล่าถึงสถานการณ์ในประเทศ บอกว่า เรากำลังเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย ทุกคนก็ไม่ได้มีใครว่าอะไร ไม่ได้มีปัญหาอะไร”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์หลังมีผู้ร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจติตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งในเรื่องการสร้างฝาย ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และการประมูลงานก่อสร้างของกองทัพภาค 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม และครอบครัว ว่า เรื่องน้องชายก็ส่วนน้องชาย เป็นคนละคน ส่วนที่ตนถูกโจมตีไปด้วยนั้น ก็โจมตีไป เพราะโดนทุกวันอยู่แล้ว แต่อย่าทำผิดกฎหมายกับตนก็แล้วกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯห่วงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วคุณห่วงน้อง ห่วงญาติพี่น้องคุณหรือไม่ และเรื่องที่ถูกโจมตีเหล่านั้นจริงหรือเปล่า พิสูจน์หรือยังว่ามันผิด โดยในเรื่องการทำธุรกรรมบริษัทนั้น ยังไม่รู้ว่าถูกหรือผิด
“เขาคงไม่โง่หรอก แต่ผมก็ไม่รับประกันแทนอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องของเขาที่ต้องรับผิดชอบไป เพียงแต่ว่ามันจะถูกจับตานี่โน่น คือ พอมีอะไรขึ้นมาผมก็จะต้องโดน แล้วมาบอกว่ารัฐบาลไม่เอาใจใส่ มันคนละประเด็น อยากจะสอบก็สอบไป แต่อย่าไปเอาเรื่องที่เกิดขึ้นมาตีกันอีกว่าทางนี้ก็เป็น จะทำไปเพื่ออะไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า เมื่อมีการฟ้องร้องก็ให้สอบไป ตนคงไม่ทำตัวแบบที่มันเกิด ๆ มาหรอก อะไรที่ตัดสินแล้วหลุดตัวเองถูกตัวเองดีนั้นชอบกระบวนการศาลยุติธรรม แต่ถ้าไม่หลุดแล้วด่าศาล คนแบบนี้มันอยู่ได้ยังไงประเทศไทย ก็ปล่อยให้เขาทำลายต่อไปแล้วกัน ตนก็ทำได้แค่นี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด ว่า ได้รับรายงานแล้ว ตนได้รับรายงานทุกเรื่อง ไม่ต้องกลัวหรอกอยู่ไหนก็ได้รับ เพราะใช้โทรศัพท์ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ระดมการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทุกวัน ไม่ใช่เขาไม่ทำ พอน้ำท่วม น้ำหลากไม่กี่วันเขาก็เคลียร์ออก นี่คือความแตกต่าง ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย ตนก็สั่งเองด้วยเห็นในทีวี เห็นในโน้นในนี่ ตนก็สั่งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคสช. เขาก็ไปมะรุมมะตุ้มกันทุกวัน ถ้าเวลาเขียนไปแล้วไม่ให้กำลังใจคนทำ อีกหน่อยเขาก็ไม่ทำหรอก เขาอดหลับอดนอนเหน็ดเหนื่อยเสี่ยงอันตรายก็เสี่ยง แต่ก็ไม่ได้อะไรดีขึ้นมาเลย เพราะคนในพื้นที่ไม่ชอบ รัฐบาลนี้ช่วยเหลือเกื้อกลูได้ทันเวลา แต่ไอ้คนนอกพื้นที่ไม่ได้ลำบากอะไรเลย ก็ติติงอยู่นั้นแหล่ะ ไปดูสิ รัฐบาลบริหารจัดการจากที่ไม่มีแบบแผน ไม่เป็นระเบียบมากนัก ไม่ได้เตรียมมาตรการ จนกระทั่ง 2 ปีทีผ่านมา ก็บริหารได้ดีพอสมควร แต่จะให้ไม่ท่วมไม่มีใครทำได้หรอกถ้าตราบใดฝนยังตกลงมามาก แล้วไม่มีการทำที่เก็บน้ำให้ถาวร ไม่มีที่ระบายน้ำที่พักน้ำพร่องน้ำมันสมบูรณ์ที่ไหน ก็พยายามทำอยู่มา 2 ปีแล้ว ไปดูสิว่าเขาทำอะไรบ้าง ขุดบ่อ ขุดอ่างกี่พันแห่ง ไปเทียบว่าก่อนหน้าที่จะเข้ามาทำบ้างหรือยังทำบ้างหรือเปล่าสิ่งเหล่านี้